PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N

PRO TURKEY EXCLUSIVE ROUTE 9 D 6 N

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ)

19.30 น.  คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ  เคาน์เตอร์สายการบิน TURKISH AIRLINES พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

23.00 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตัลบูล ประเทศตุรกี โดยสายบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK69 (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 10.20 ชั่วโมง) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่อง 

วันที่ 2

สนามบินอะตาเติร์ก – เมืองอิชเมียร์ – เมืองโบราณเอฟฟิซุส – บ้านพระแม่มารี – โรงงานผลิตเครื่องหนัง - เมืองคูซาดาซี

05.20 น.  เดินทางถึง สนามบินอิสตัลบูล ประเทศตุรกี

08.00 น.  ออกเดินทางต่อสู่ เมืองอิชเมียร์ (Izmir) โดยสายบิน TURKISH AIRLINES โดยเที่ยวบิน TK 2312

09.25 น.   ถึงสนามบินเมืองอิชเมียร์ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านเข้าชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตเครื่องหนัง (Leather Factory)ซึ่งประเทศตุรกีเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้นๆของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อีกด้วย อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์จากเครื่องหนัง และ สินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (Kusadasi)เมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ซึ่งทำให้ในอดีต เมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกไปทั่วโลก

เย็น    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ARIA CLAROS BEACH 5 STAR***** มาตรฐานตุรกี หรือระดับใกล้เคียง  

วันที่ 3

เมืองคูซาดาซี – เมืองปามุคคาเล่ – ปราสาทปุยฝ้าย - เมืองเฮียราโพลิส

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (Pamukkale) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา จนเกิด่ผลึขึ้นกึ่งสถาปัตยกรรม

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ผลจากการไหลของน้าพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้าตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทา ให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้าเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ท่านจะได้สัมผัส เมืองเฮียราโพลิส (Hierapolis) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามสี รรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่ว ไปบางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น

เย็น    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พัก COLOSSAE THERMAL 5 STAR***** มาตรฐานตุรกี หรือระดับใกล้เคียง 

วันที่ 4

เมืองปามุคคาเล่ – พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า – เมืองคัปปาโดเกีย

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำทุกท่านสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า (Mevlana museum)เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทา สมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาลุคดิน รูมี่ อาจารย์ทางปรัชญาประจา ราชสา นักแห่งสุลต่านอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลม สีเขียวสดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตร ของเมฟลาน่าด้วย

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

ระหว่างทางแวะชม Caravansarai ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่าง ทะเลดำ กับ ภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน เป็นพื้นที่พิเศษ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ทำให้ลาวาที่พ่นออกมา และเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมาจากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกัน กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่งกรวย (คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” (Fairy Chimney) โดยชื่อ คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” และในปัจจุบันนี้ก็ยังเลี้ยงม้ากันอยู่บริเวณนี้ อีกทั้ง ยังมีเมืองใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้เมืองคัปปาโดเกีย ถือเป็นเมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะที่เมืองใต้ดินแห่งนี้ขุดลึกลงไปถึง 10 ชั้น ประมาณ 90 เมตร และภายในเมืองใต้ดินยังแบ่งซอยเป็นห้องย่อย เฉพาะที่เมืองคัปปาโดเกียมีเมืองใต้ดินมากถึง 15 แห่งและถ้ารวมทั้งเมืองอื่นๆ ด้วยก็เกือบๆ 200 แห่งเลยทีเดียว และยังมีการขุดเชื่อมกันระหว่างแต่ละเมืองอีกด้วย  ซึ่งภายในเมืองใต้ดินมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องประชุม คอกสัตว์ โบสถ์  บ่อน้ำ บางห้องเป็นห้องโถงกว้างว่ากันว่าสามารถจุคนได้มากกว่า 30,000 คน เลยทีเดียว ด้วยความอัศจรรย์ใต้พิภพแห่งนี้ ทางองค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเมืองใต้ดินแห่งเมืองคัปปาโดเจีย เป็นสถานที่มรดกโลกอีกด้วย และบุตรของเมฟลาน่าด้วย

เย็น    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนาท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำ หน้าท้อง” หรือ Belly Dance เป็นการเต้นรำ ที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบา หน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทา ให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบา หน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PREMIER CAVE โรงแรมถ้ำจำลอง มาตรฐานตุรกี หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 5

เมืองคัปปาโดเกีย - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เกอราเม่ – บ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง – โรงงานทอพรม – โรงงานเซรามิค

** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูน ชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.30 น.เพื่อชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเจียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง **(ค่าขึ้นบอลลูน ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ประมาณ 230-250 USD)

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เกอราเม่ (Open Air Museum of Goreme) ซึ่งองค์กรยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น Pottery Kebab

นำเข้าชม บ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง (Local Cave House) ของชาวพื้นเมือง Cappadocia พร้อมดื่มชา กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา กาแฟ เป็น Welcome Drink เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ จากนั้นนำท่านเข้าชม โรงงานทอพรม (Carpet Factory) และ โรงงานเซรามิค (Pottery at Avanos Village) คุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย

เย็น    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PREMIER CAVE โรงแรมถ้ำจำลอง มาตรฐานตุรกี หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 6

เมืองคัปปาโดเกีย – นครใต้ดิน – เมืองอิสตันบูล

** สำหรับท่านต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับการนั่งรถ Jeep Safari ลัดเลาะไปตามแกรนด์แคนย่อน ตรอกซอกเขาที่เป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิดอย่างที่ไม่เคยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เคยสัมผัสมาก่อน แวะให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิดนับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่อย่างแท้จริง  (ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคาโดยประมาณ  80 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น) **

นำท่านออกเดินทางสู่ จุดชมวิว (Devrent valley) เป็นวิวที่ดีที่สุดของคัปปาโดเกียซึ่งสามารถมองเห็น ปล่องไฟ นางฟ้าชนิดต่าง ๆ ได้เช่น รูปเห็ด และสัตว์ต่าง ๆ จากนั้น

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ นครใต้ดิน (Underground City)เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้องๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำ และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงอาจค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

15.55 น.  นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล โดยสายบิน TURKISH AIRLINES โดยเที่ยวบินที่ TK2013

17.50 น.   เดินทางถึง เมืองอิสตันบูล เมืองที่มีความสำคัญที่สุดและเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในตุรกี เดิมชื่อว่า คอนสแตนติโนเปิล ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์เป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้นจึงส่งผลให้อสิตันบูล มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป เช่น ไบแซนเทียม คอนสแตนติโนเปิ้ล นอกจากนั้นยัง เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี เป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย

เย็น   พิเศษ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารกลางน้ำ (Maiden Tower)

พัก GONEN 5 STAR***** มาตรฐานตุรกี หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 7

กรุงอิสตันบูล – ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส – จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด – ฮิปโปโดม – สุเหร่าสีน้ำเงิน - อุโมงค์เก็บน้า เยเรบาทัน – สุเหร่าเซนต์โซเฟีย – ตลาดสไปซ์

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส จุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับทะเลดา เข้ากับทะเลมาร์มาร่าแล้วยังมีจุดชมวิวที่สา คัญคือสะพานแขวนบอสฟอรัสเป็นสะพานที่ทา ขึ้นเพื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งข้ามฝั่งยุโรปและเอเชียได้ เป็นสะพานแขวนที่มีความยาวถึง 1,560 เมตร นอกจากนั้นระหว่างล่องเรือสามารถมองเห็นสถานที่สำคัญเช่น พระราชวังโดลมาบาเช่และบ้านเรือนของเศรษฐีตุรกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้าตลอดความยาวทั้งสิ้นประมาณ32 ก.ม. โดยมีความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 กิโลเมตร

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609  ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี

นำท่านเดินทางสู่ อุโมงค์เก็บน้า เยเรบาทัน (YEREBATAN SARNICI) สร้างในสมัยจักรพรรดิจัสติเนียนในปี ค.ศ.532 เพื่อเป็นที่เก็บน้าสา หรับใช้ในพระราชวัง สา รองไว้ใช้ยามอิสตันบูลถูกข้าศึกปิดล้อมเมืองความกว้าง 65 เมตร ยาว 143 เมตร มีเสาค้า หลังคา 336 ต้น แบ่งเป็น 12 แถว สามารถจุน้าได้ทั้งหมด 80,000 ลูกบาศก์เมตร น้าที่ได้ส่งผ่านมาทางท่อมาจากแหล่งน้าที่อยู่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร ใกล้กับทะเลดำ ที่มาของสถานที่แห่งนี้ชวนให้น่าขนลุกอยู่ไม่น้อย เสาคอลัมน์ หัวเสา และฐานเสานามาจากซากปรักหักพังของอาคารหลายแห่ง มีเสาทรงแปลกๆมากมาย อย่างเช่นเสาประดับรูปศีรษะเมดูซ่าที่กลับหัวลงและตะแคงข้าง รวมทั้งเสาหยาดน้าตา ในยุคออตโตมัน

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นนำทุกท่านเข้าชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Saint Sophia) หรือ โบสถ์ฮาเจียโซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมสุ ลิมในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนตินเป็นผู้สูร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทา ลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกดิ การขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามจวบจนถึงรัชสมัยของพระเจ้าจัสตินเนียน โดยสร้างโบสถ์เซนต์โซเฟียขึ้น ใหม่ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปีพ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหาสิ่งของมีค่าต่างๆมาประดับไว้มากมายสร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่างมโหฬารต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทา ให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียนถึงสมัยพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 เป็นผ้นับถือศาสนาอสิ ลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม

นำท่านเดินทางสู่ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ (SPICE MARKET) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากคุณภาพดีได้ในราคาย่อมเยาไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง หรือเตอกิสดีไลท์ สินค้าอันเลื่องชื่อของตุรกีซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย ได้เวลาอันสมควรถึงเวลาอันสมควร

เย็น    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   

พัก GONEN 5 STAR***** มาตรฐานตุรกี หรือระดับใกล้เคียง

วันที่ 8

กรุงอิสตันบูล – พระราชวังโดลมาบาเช่ – มัสยิดชามลีกา – ย่านทักซิมสแควร์ - สนามบินอิสตันบูล

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ สร้างโดยสุลต่านอับดุลเมซิดในปี 2399 ใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี สร้างด้วยหินอ่อนศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตกตัวอาคารยาวถึง 600 เมตรตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรปจุดเด่นของวังแห่งนี้คือมีการประดับตกแต่งด้วยความประณีตวิจิตรตระการตามีทั้งเฟอร์นิเจอร์พรมโคมไฟเครื่องแก้วเจียระในและรูปเขียนรูปถ่ายต่างๆที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่ โคมไฟแชนเดอเลียร์ของขวัญจากอังกฤษทา จากแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหนักถึง 5000 กิโลกรัม ประดับดวงไฟ 750 ดวงพรมทอมือผืนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกเสาหินอ่อนบันไดทางขึ้นห้องโถงตรงราวทา ด้วยไม้วอลนัตลูกกรงราวบันไดทา ด้วยแก้วคริสตัลพรมชั้นเลิศราคาแพงที่สุดในโลกเครื่องแก้วเจียระไนจากโบฮีเมียดีที่สุดในโลกของสาธารณรัฐเช็กหินอ่อนจากอียิปต์มาทา ห้องอาบน้า (เซาน่า)ในรูปแบบที่เรียกว่าเตอร์กชิ บาธที่น่าสังเกตคือมีนาฬิกาวางประดับไว้มากมายทุกเรือนจะชี้บอกเวลา 0906 นอ้นเป็นเวลาที่ประธานาธิบดีมุสตาฟาเคมาลหรืออตาเติร์กถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2484

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม มัสยิดชามลีกา (Camlica Mosque) เป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตุรกี มีเนื้อที่ 57,500 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2013 เปิดให้ปฎิบัติศาสนกิจครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2019 มัสยิดสามารถรองรับผู้ปฎิบัติศาสนกิจได้มากถึง 63,000 คน โดยใช้สถาปัตยกรรมตามแบบฉบับออตโตมันและเซลจุก รวมถึงศิลปะในปัจจุบันผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุด จากนั้นนำท่านสู่ ย่านทักซิมสแควร์ (Taksim Square) เป็นย่านคึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบลูและเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่ในเขตยโรปของนครอิสตันบูล ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล

เย็น    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

นำท่านทำ TAX REFUND เช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระนำท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติ อิสตุลบูล กรุงอิสตันบูล เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ

วันที่ 9

กรุงเทพ(สุวรรณภูมิ)

01.50 น.   ออกเดินทางจากเมืองอิสตัลบลู กลับกรุงเทพฯ โดยสายบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK58 (ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 9.35 ชั่วโมง) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่อง

15.05 น.   เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการรวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับตามที่ระบุ Economy Class ค่าภาษีสนามบิน ค่าภาษีน้ำมัน (ยกเว้นหากมี  การประกาศปรับขึ้นจากทางสายการบินจะมีการเรียกเก็บเพิ่มเติมจากท่านภายหลัง) และเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถเลื่อนวันเดินทางไป-กลับได้ ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนของสายการบิน
  • น้ำหนักกระเป๋า โหลดใต้ท้องเครื่องท่านละ 20 กิโลกรัม 1 ใบ และกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศ ตามวันที่ระบุ 
  • โรงแรมที่พักตามที่ระบุหรือเทียบเท่า (พัก 2-3 ท่าน/ห้อง) อนึ่ง เรื่องของการยืนยันโรงแรมที่พักนั้น อาจยังไม่ยืนยัน หากผู้เดินทางมีความประสงค์ที่จะทราบกรุณาติดต่อพนักงานขายเพื่อสอบถาม เพราะโรงแรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะใช้โรงแรมระดับ เดียวกัน ซึ่งทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าประมาณ 1-3 วัน ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้จากใบนัดหมายการเดินทาง แต่หากมีการแก้ไขจากใบเดินทางอีกนั้นขอให้ท่านทราบว่าบริษัทฯ จะจัดหาโรงแรมในระดับเดียวกันให้กับผู้เดินทางแน่นอน
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ   
  • ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ  
  • ค่ามัคคุเทศน์หรือหัวหน้าทัวร์ดูแลตลอดเส้นทาง (ไม่รวมค่าทิป)
  • ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุในการเดินทางท่องเที่ยว วงเงินประกันท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรรมธรรม์) หากสนใจซื้อประกันเพิ่มเติมสามารถดูรายละเอียดได้ท้ายโปรแกรม

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่า ซักรีดค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นขอวีซ่า สำหรับชาวต่างชาติ 
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าที่เกินกว่าที่สายการบินกำหนดให้หรือสัมภาระใหญ่กว่ามาตรฐาน 
  • ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
  • ค่าทิปคนขับรถ มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 85 USD/ท่าน/ทริป ทั้งนี้ท่าสามารถให้มากกว่านี้ได้ตามความเหมาะสมและความพึงพอใจของท่าน ค่าทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจของท่าน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

ราคา

THB 10,000,000

19 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more