เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N

เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง นิงห์บิงห์ [เลสโก แตะขอบฟ้า ฟานซิปัน] 5 D 4 N

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินไฮฟอง – เมืองไฮฟอง – เมืองฮาลอง – ฮาลองไนท์ มาร์เก็ต

12.30  พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน VIETJET AIR โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

15.20   นำท่านเหินฟ้าสู่ เมืองไฮฟอง ประเทศเวียดนาม โดยเที่ยวบินที่ VJ906

17.15   เดินทางถึง ท่าอากาศยานแคท บิ เมืองไฮฟอง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย 

ค่ำ   บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (1)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาลอง ดินแดนแห่งมังกรหลับไหลระหว่างเดินทางชื่นชมธรรมชาติ ผ่านชนบทของเวียดนาม สองฝั่งส่วนใหญ่จะเป็นนาข้าวสีสันสวยงามต่างกันไปตามฤดูกาล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง)

จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเลือกซื้อสินค้าที่ ฮาลอง ไนท์ มาร์เก็ต มีสินค้าพื้นเมืองเวียดนามและสินค้าจากจีนให้ท่านได้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝาก เช่น กระเป๋าผ้าไหม ไม้หอมแกะสลัก เสื้อผ้า ผ้าพันคอ เสื้อยืดลายเวียดนาม ฯลฯ

พักที่ NEW STAR HOTEL / CITYBAY HOTEL / KENNY HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ 2

เมืองฮาลอง – ท่าเรือโห่งไก – ล่องเรืออ่าวฮาลอง เบย์ – ถ้ำนางฟ้า – เกาะไก่ชน – เมืองนิงห์บิงห์ – ล่องเรือฮาลองบก – เมืองฮานอย

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

เดินทางไป ท่าเรือโห่งไก ที่เช้าตรู่แบบนี้จะพลุกพล่านไปด้วยผู้คน รถบัสเล็กใหญ่ ที่มาส่งนักท่องเที่ยวขึ้นเรือ เรือจะเป็นเรือไม้โบราณ มีห้องน้ำ ห้องครัว และดาดฟ้าชมวิว เรือออกจากท่ามุ่งหน้าไปชมถ้ำ เรือจะจอดให้ลง และออกไปรอรับท่านอีกท่าหนึ่งโดยไม่วกกลับมาที่เดิม

นำท่านล่องเรืออ่าว ฮาลอง เบย์ เชิญท่านสัมผัสความงดงามและความสมบูรณ์แบบของอ่าวฮาลอง จนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก้เมื่อปี พ.ศ. 2537 สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ได้แต่งแต้มด้วยเกาะหินปูนรูปร่างแปลกตานับพันเกาะ สลับซับซ้อนเรียงตัวกันอย่างสวยงาม  ผ่านเกาะต่างๆ ที่มีรูปร่างแปลกตา อ่าวฮาลองนั้นประกอบไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยจำนวนกว่า 1,000 เกาะ

จากนั้นนำท่านชม ถ้ำสวรรค์ ภายในถ้ำงดงาม มีหินรูปทรงต่างๆ ประดับไปด้วยไฟหลากหลายสีสัน ทำให้มองเห็นเป็นรูปทรงต่างๆ กันไปตามจินตนาการ เช่น มังกร หงส์ เต่า เสือ นกกระเรียน คู่รัก ฯลฯ และกลับไปขึ้นเรือต่อ ล่องเรือไปชมความงามของเกาะน้อยใหญ่ที่มีรูปทรงประหลาดกระจัดกระจายอยู่พันกว่าเกาะในอ่าว ซึ่งยูเนสโก้ประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อ 17 ธันวาคม 2537และไฮไลท์ของที่นี่เรือจะผ่านให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ เกาะไก่ชน สัญลักษณ์ของอ่าวฮาลอง

เที่ยง    บริการอาหารกลางวันบนเรือ พิเศษ !! เมนูซีฟู๊ด+ไวน์แดง (3)

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนิงบิงห์ เมืองเก่าแก่ที่มีความโดดเด่นทางธรรมชาติ มีพื้นที่ชุ่มน้ำในอาณาเขตอันไพศาลจนถูกขนานนามว่า “ฮาลองบก” เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แปลกตา ทั้งเทือกเขา เนินเขาหินปูน ที่ราบต่ำ และนาข้าวล้อมรอบด้วยยอดเขา99 ยอด จึงถือกันว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ คณะปฏิวัติของโฮจิมินห์ก็ได้เคยตั้งฐานทัพขึ้นที่นี่เป็นแห่งแรกในการศึก เดียนเบียนฟู ระหว่างทางนำท่านชมสินค้า otop ร้านเยื้อไผ่-สมุนไพร หยกและเครื่องประดับ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ ล่องเรือนิงห์บิงห์ หรือ ฮาลองบก เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ในจังหวัดนิงบิ่งห์ เป็นพื้นที่ที่มีทั้งภูมิทัศน์อันงดงามของยอดเขาหินปูน แม่น้ำหลายสายไหลลัดเลาะ บางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ และยังถูกล้อมรอบด้วยผาสูงชัน จึงทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามน่าชม และยังมีร่องรอยทางโบราณคดีที่เผยให้เห็นการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัย โบราณ ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ

นำท่านลงเรือล่องไปตามสายธารแห่งธาราที่ไหลเย็น ในช่วงแรกของการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพของภูเขาสองฝั่งแม่น้ำ ซึ่งมีความยาวหลายกิโลเมตร  ภาพที่ปรากฏในระ หว่างการเดินทางหลายท่านเปรียบเหมือน กุ้ยหลินของจีน หรือ อ่าวฮาลองเบย์ เพลิดเพลินกับการ นั่งเรือ ล่องผ่านท้องน้ำ และถ้ำต่างๆภายในบริเวณท่านจะได้ ชมทัศนียภาพของภูเขาน้อยใหญ่ สลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางเป็นทุ่งนาบ้างทุ่งหญ้าคาบ้างสลับกันไป ความประทับใจที่ได้จากการมาเที่ยวชม เป็นสถานที่ท่องเทียวทางธรรรมชาติที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเวียตนาม ทิวทัศน์ความสวยงามของที่นี้ได้รับการรังสรรค์จากธรรมชาติล้วนๆ  และยังเป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์ KONG SKULL ISLAND

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮานอย ตั้งอยู่ตอนต้นอยู่บนลุ่มแม่น้ำแดง ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ลี้สถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 1553 โดยใช้ชื่อว่า ทังล็อง แปลว่า มังกรเหิน จนกระทั่ง พ.ศ. 2245 กษัตริย์ราชวงศ์เหงียนได้ย้ายเมือหลวงไปอยู่เมืองเว้เมื่อตกเป็นส่วนหนึ่ของอินโดจีนฝรั่งเศส ฮานอยจึงกลับมาเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการอีกครั้งใน พ.ศ. 2430 ภายหลังได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2489 ดินแดนเวียดนามแยกออกเป็นสองประเทศ โดยฮานอยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ เมื่อรวมประเทศใน พ.ศ. 2519 จึงเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวของเวียดนามในปัจจุบัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (4)

พักที่ DELIGHT HOTEL / MOON VIEW HOTEL / FIRST EDEN HOTEL / CWD HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ 3

เมืองฮานอย – เมืองลาวไก – ด่านชายแดนเวียดนาม-จีน – เมืองซาปา – หมู่บ้านชาวเขา ก๊าตก๊าต น้ำตกสีเงิน – ภูเขาปากมังกร – ซาปาเลิฟ มาร์เก็ต

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

นำท่านออกจาก เมืองฮานอย เพื่อเดินทางเข้าสู่ เมืองลาวไก ใกล้กับชายแดนจีน ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,650 เมตร จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ให้ท่านได้ถ่ายรูปบริเวณ ด่านชายแดนเวียดนาม-จีน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)

เที่ยง    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (6)

หลังอาหารเที่ยงนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองซาปา ใช้เวลาเพียง 45 นาที เมืองซาปา เป็นเมืองเล็กๆ แห่งนี้เริ่มต้นเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนเมื่อครั้งที่ฝรั่งเศสซึ่งปกครองเวียดนามอยู่ในขณะนั้นได้มาสร้างสถานีบนภูเขาขึ้นในปี พ.ศ.2465 จากนั้นจึงเริ่มมีชาวต่างชาติมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นประจำ เพราะอากาศดีและเงียบสงบ และเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยว จึงทำให้ปัจจุบันที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากบรรยากาศแล้ว บรรดาชาวเขาที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ก็มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ พื้นที่ในซาปาเต็มไปด้วยนาขั้นบันไดท่ามกลางที่ลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างมีเสน่ห์ นอกจากนี้ยังมีเทือกเขาฟานสีปัน ที่สูงที่สุดในอินโดจีนที่ความสูง 3,143 เมตรจากระดับน้ำทะเล

นำท่านชม หมู่บ้านชาวเขา ก๊าตก๊าต หรือ CAT CAT VILLAGE หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งดำ ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาในหมู่บ้านนี้ และชมแปลงนาข้าวแบบขั้นบันได การเดินทางไปหมู่บ้านก๊าตก๊าต สามารถเดินทางเท้าหรือนั่งรถยนต์ก็ได้ ในกรณีที่นั่งรถยนต์ รถนำเที่ยวจะพาทุกท่านมาที่หน้าหมู่บ้านก๊าตก๊าต  และ

จากนั้นจึงเดินเท้าเลาะตามไล่เขาซึ่งเป็นถนนของหมู่บ้านเพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบมีความสุขของประชาชนชาวเขาพื้นเมือง ที่พึ่งพาธรรมชาติในการดำเนินชีวิตอันเรียบง่าย ตลอดการเดินทางเท้าจะมีบ้านเรือนของชาวเขาที่เปิดร้านวางจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว (ลูกค้าสามารถนำสิ่งของไปบริจาคแก่เด็กชาวเขาได้ อาทิเช่น เสื่อผ้า ผ้าห่ม รองเท้า ขนม โดยเฉพาะมาม่า เป็นต้น)

นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกสีเงิน เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองซาปา ไหลจากยอดเขาฟานซีปัน ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากระยะไกล มีความสูง 100 เมตร

นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาปากมังกร ซึ่งเป็นภูเขาอยู่กลางเมืองซาปา นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าขึ้นไปเพื่อชมหมอกและเมฆคลุมเมืองซาปาในยามเช้า ชมเทือกเขาเลียนเซิน รวมถึงยอดเขาฟานซีฟัง ที่มีความสูงถึง 3,143 เมตร ถือเป็นยอดภูเขาที่อยู่สูงสุดในอินโดจีน จนได้รับฉายาว่าเป็น หลังคาแห่งอินโดจีน ในระหว่างที่เดินขึ้นภูเขาฮามรอง นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมสวนดอกไม้ สวนกล้วยไม้ และสวนหินที่สวยงามตลอดทางเท้า

เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ !! เมนูสุกี้หม้อไฟ (7)

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อย อิสระท่านเดินชมและช้อปปิ้งที่ ตลาดซาปาเลิฟ ไนท์มาร์เก็ท มีสินค้าให้ท่านเลือก ช้อปปิ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง ของฝาก ขนม กระเป๋า รองเท้า ท่านสามารถช้อปปิ้งให้อย่างจุใจ

พักที่ HOLIDAY SAPA HOTEL / SAPA DIAMOND HOTEL  หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ 4

เมืองซาปา – นั่งรถไฟชมเมืองซาปา – นั่งกระเช้าไฟฟ้า – ขึ้นยอดเขาฟานซิปัน – เมืองฮานอย สะพานแสงอาทิตย์ – ทะเลสาบคืนดาว – วัดหงอกเซิน – ถนน 36 สาย

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)

จากนั้นนำท่าน นั่งรถไฟเมืองซาปา ท่านจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ของเมืองซาปาที่เต็มไปด้วยความสดชื่น และสูดกลิ่นอายธรรมชาติ ท่านยังจะได้พบกับทุ่งนาขั้นบันไดที่เรียงรายเป็นขั้นสวยงาม ถึงสถานีนั่งกระเช้าไฟฟ้า (รวมค่ารถรางแล้ว)

จากนั้นนำท่านสู่ ยอดเขาฟานซิปัน โดย กระเช้าไฟฟ้า ไปยังยอดเขา ซึ่งเปรียบเสมือน "หลังคาอินโดจีน" เป็นระบบกระเช้าไฟฟ้าสริงสามสาย ยาวที่สุดในเอเชีย รวมระยะทาง 6.3 กิโลเมตร สถานีสุดท้ายอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 3,000 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ระหว่างทางท่านจะได้เห็น น้ำตกสีเงิน และ หมู่บ้านก๊าต ก๊าต ในมุมสูงชมนาขั้นบันไดที่สวยงาม เมื่อเดินทางถึงสถานีด้านบนท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นและสวยงาม เดินขึ้นสู่จุดสูงสุดของยอดเขาให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจ (รวมค่ากระเช้าฟานซิปันแล้ว แต่ไม่รวมค่ารถรางขึ้นยอดเขา)

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (9)

นำทานเดินทางกลับสู่ เมืองฮานอย ผ่านเส้นทางเดิม หลังจากนั้นนำท่านชม ทะเลสาบคืนดาบ ทะเลสาบใจกลางเมืองฮานอย ที่มีตำนานเล่าขานว่าในสมัยที่เวียดนามทำสงครามสู้รบกับจีนกษัตริย์แห่งเวียดนามไม่เคยรบชนะจีนได้เลย ทำให้เกิดความท้อแท้ เมื่อมาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ได้มีปาฏิหารย์ เต่าขนาดใหญ่มากได้คาบดาบวิเศษมาให้พระองค์ และเมื่อพระองค์นำดาบไปต่อสู่กับจีนก็ได้ชัยชนะกลับมาทำให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อสงครามสิ้นสุดพระองค์ก็ได้นำดาบมาคืน ณ ทะเลสาบแห่งนี้

นำท่านชม สะพานแสงอาทิตย์ ข้ามไปสู่เกาะหยก ชม วัดหงอกเซิน วัดโบราณ ภายในประกอบด้วยศาลเจ้าโบราณ และข้างๆ ศาลเจ้ามีอาคารหลังเล็กๆ ที่มีเต่าสต๊าฟขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเต่าที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ ภายในวัดยังมีตะพาบศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งอานุสาวรีย์ของ ตรันคว็อกตวน ซึ่งเป็นแม่ทัพเอกในการต่อสู้กับกองทัพมองโกลและขับเคลื่อนทัพมองโกลกลับไปได้สำเร็จเมื่อปี ค.ศ.1257 วัดหง็อกเซิน หรือวัดเนินหยก เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งที่สำคัญมากๆของเมืองฮานอยสะพานสีแดงนั้นเป็นสะพานไม้ที่มีนักท่องเที่ยวที่มาทัวร์เวียดนามที่เป็นคู่รักมักจะมาถ่ายรูปพรีเวสดิ้งกันที่นี่ เมื่อผู้ที่มาทัวร์เวียดนามข้ามสะพานไปก็จะเข้าสู่ประตูวัด ภายด้านในนั้นจะมีตะพาบอยู่ 1 ตัว ที่สต๊าฟไว้ประวัติและความเป็นมานั้นกล่าวไว้ว่า ทะเลสาบแห่งนี้มีตะพาบทั้งหมด 2 ตัว อีกตัวหนึ่งยังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ในทะเลสาบ

จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าบน ช้อปปิ้งถนน 36 สาย ที่ขายสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งของที่ระลึก ของกิน ของใช้ อาทิ เครื่องเขิน หมวกงอบญวน เซรามิก ภาพเขียน กระเป๋าก๊อปปี้ยี่ห้อต่างๆ เช่น Samsonite, Kipling, Roxy, Billabong

เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ !! บุฟเฟ่ต์นานาชาติ SEN (10)

พักที่ DELIGHT HOTEL / MOON VIEW HOTEL / FIRST EDEN HOTEL / CWD HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ 5

เมืองฮานอย – จัตุรัสบาดิงห์ – สุสานโฮจิมินห์ – สนามบินนอยไบ – สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)

จากนั้นนำท่านเดินทางไป จัตุรัสบาดิงห์ ลานกว้างที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ได้อ่านคำประกาศอิสรภาพของเวียดนามพ้นจากฝรั่งเศสเมื่อ 2 ก.ย. 2488 หลังจากเวียดนามตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสอยู่ถึง 84 ปี นำท่านถ่ายรูปด้านหน้าที่ สุสานโฮจิมินห์ (ถ่ายรูปด้านนอก)  ด้านในเป็นที่บรรจุศพของท่านโฮจิมินห์อาบน้ำยานอนสงบอยู่ในโลงแก้ว (ปิดให้เข้าชมทุกวันจันทร์และศุกร์)

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินสู่ ท่าอากาศยานนอยไบ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

12.15   นำท่านเหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ VJ901

14.05   ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ...พร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ             
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กก.  
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่านหรือ  3 ท่าน    
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ            
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ(กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ ไกด์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์ท่านละ 1,500 บาท/ทริป/ต่อท่าน 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

ราคา

THB 10,000,000

20 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more