EASY MYANMAR อิ่มบุญ 3 D 2 N

EASY MYANMAR อิ่มบุญ 3 D 2 N

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – ย่างกุ้ง – หงสาวดี – พระธาตุมุเตา – พระราชวังบุเรงนอง – คิ้มปูนแคมป์ – พระธาตุอินทร์แขวน

08.00 น.  คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 6 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ N  ของ สายการบิน MYANMAR AIRWAYS (8M) พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรขึ้นเครื่อง

10.40 น.  เหินฟ้าสู่ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยเที่ยวบินที่ 8M336 บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มบนเครื่อง 

11.25 น.  ถึงสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง (เวลาที่ประเทศพม่าช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที) หลังจากผ่านพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระก่อนออกเดินทางแล้ว

นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี(BAGO) ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 80กม.(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง) 

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านนมัสการ เจดีย์ชเวมอดอว์ (ShwemawdawPagoda) เจดีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี เป็นเจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศเมียนมาร์ คนไทยนิยมเรียกว่า พระมหาเจดีย์มุเตา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งเจดีย์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทย เคยมาสักการะ เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะของพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 377 ฟุต สูงกว่าเจดีย์ชเวดากอง 51 ฟุต มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตรที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นด้านล่างแต่ยอดฉัตรกลับยังคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ(หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ ท่านจะได้นมัสการ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป

แล้วนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง ซึ่งเพิ่งเริ่มขุดค้นและบูรณะปฏิสังขรณ์เมื่อปี 2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า โบราณสถานแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ท่านที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของพระพี่นางสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกที่เมืองหงสา แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดารและซากที่ขุดค้นพบ

จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวน องค์เจดีย์ขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่สูง 5.5 เมตร  ปิดทองทั้งองค์ ซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาอย่างหมิ่นเหม่ดูคล้ายว่าจะตกลงไปในหุบเหวได้ทุกขณะ พระธาตุอินทร์แขวนนี้นับเป็น 1ใน 5มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึง  คิ้มปูนแค้มป์ เพื่อทำการเปลี่ยนเป็นรถเป็นรถท้องถิ่นซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดหกล้อ (เป็นรถประจำเส้นทางชนิดเดียวที่เราจะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้) ใช้เวลาเดินทางต่อประมาณ 1ชั่วโมง จะถึงจุดจอดรถที่ขึ้นเขาพระธาตุอินทร์แขวน หลังจากนั้นจะใช้วิธีการเดินเท้าต่อไปเพื่อเข้าโรงแรม(รถทุกคันจะต้องมาจอดที่จุดนี้และใช้วิธีการเดินเท้าขึ้นไป หากท่านไหนเดินไม่ไหว สามารถจ้างลูกแบกได้ โดยราคาอยู่ที่การต่อรองและระยะทาง)

เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก

หลังอาหารค่ำเชิญท่านไปนมัสการพระธาตุตามอัธยาศัย สามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน ถ้าจะนมัสการกลางแจ้งเป็นเวลานานบริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ๊ก์ทีโย ควรเตรียมเสื้อกันหนาว หรือกันลม หรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ เบาะรองนั่งเพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับบุรุษเปิดถึงเวลา 20.00 น. เท่านั้น

ตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนาพระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็น พระธาตุปีเกิดของปีจอ แทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ  ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวนได้ แต่ต้องเป็นทองคำเปลว 100 % เท่านั้น (เข้าไปปิดทองได้เฉพาะท่านสุภาพบุรุษ ส่วนท่านสุภาพสตรี สามรถอธิฐาน และฝากท่านสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้)

นำท่านเข้าพักโรงแรม  Yoe Yoe lay Hotel  หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 2

พระธาตุอินทร์แขวน – คิ้มปูนแคมป์ – หงสาวดี – วัดไจ้คะวาย – เจดีย์ไจ๊ปุ่น - ชเวตาเลียว – เจดีย์โบตาทาวน์ (เทพทันใจ เทพกระซิบ) – พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

เช้าตรู่   เชิญท่านนมัสการ พระธาตุอินทร์แขวนหรือใส่บาตรตามอัธยาศัย ใส่บาตรพระสงฆ์หรือถวายข้าวพระพุทธ มีชุดจำหน่ายบริเวณวัด เมื่อถวายข้าวพระพุทธนิยมจุดเทียนตามกำลังวันหรือจำนวนอายุ นมัสการ พระธาตุอินทร์แขวน และนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนภูเขา ถ่ายรูป และชมทัศนียภาพบริเวณรอบพระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไรโดยไม่ล้มหรือหล่นลงมา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

หลังรับประทานอาหารแล้วออกเดินทางกลับโดยรถบรรทุกหกล้อถึงคินปูนแค้มป์เปลี่ยนเป็นบัสปรับอากาศเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี  ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรมอญโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3ชั่วโมง ชมวัดและโบราณสถานที่สำคัญในหงสาวดี 

นำท่าน ตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่ วัดไจ้คะวาย (Kyaike Kat Wine) สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก ท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอหรืออาหารแห้งไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้หรือจะบริจาคปัจจัย (ควรเตรียมแลกเงินจ๊าดไว้สำหรับทำบุญ) หรือทำบุญข้าวสารก็ได้เช่นเดียวกัน

จากนั้นชม พระเจดีย์ไจ๊ปุ่น ซึ่งบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2019 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทิศ 4 ทิศประกอบด้วยสมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้าในอดีต 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้าโกนาคม์ (ทิศใต้) พระพุทธเจ้ากกุสันธะ(ทิศตะวันออก)และพระพุทธเจ้ามหากัสสปะ(ทิศตะวันตก) สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ แต่ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไปแต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์ที่น้องสร้างนั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที

จากนั้นนำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียวหรือพระนอนยิ้มหวาน พระพุทธรูปนอนที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ สร้างในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศและเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า องค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตรถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจีที่ย่างกุ้ง แต่ก็งดงามกว่าโดยพระบาทจะวางเหลื่อมพระบาท ซึ่งจะเป็นลักษณะที่ไม่เหมือนกับพระนอนของไทย 

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (พิเศษเมนูกุ้งแม่น้ำเผา)

หลังรับประทานอาหาร นำท่านเดินทางกลับกรุงย่างกุ้ง(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง)

นำท่านชม เจดีย์โบตาทาวน์ (Botataung Pagoda) สร้างขึ้นโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยเจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุ พระบรมธาตุ 2 องค์ พระพุทธรูปทอง เงิน สำริดกว่า700 องค์ จารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ที่เป็นต้นแบบภาษาพม่าภายในเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์

นำท่านสักการะขอพรจาก เทพทันใจ(นัตโบโบยี)ซึ่งชาวพม่าให้ความเคารพอย่างมากและนิยมมาขอพร ด้วยเชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมความปรารถนา วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ให้เอาดอกไม้ ผลไม้โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ จากนั้นก็ให้เอาเงินบาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) ไปใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยีไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้เป็นขวัญถุง อีกหนึ่งใบให้หยอดตู้ทำบุญ เสร็จแล้วนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะ เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ โดยตามตำนานเล่าว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า จึงรักษาศีล และไม่ทานเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัตซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว วิธีการสักการะเทพกระซิบ (อะมาดอว์เมี๊ยะ) ให้บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ เมื่อบูชาเสร็จแล้วให้ไปป้องปากกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูท่านถึงเรื่องที่เราจะขอพรโดยห้ามให้คนอื่นได้ยินเรื่องที่เราขอโดยเด็ดขาด

จากนั้นนำท่านกราบนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง(Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้งมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่าสถานที่แห่งนี้มีลานอธิฐานจุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคลนอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม8องค์หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตนจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล องค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตัน ภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์ บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและ อัญมณีต่างๆจำนวนมากและยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดเจดีย์ ท่านจะได้ชมความงามของวิหารสี่ทิศซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆงานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้น ชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะยืดเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อน อังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่สามารถนำขึ้นจากแม่น้ำได้ภายหลังชาวพม่าช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิม จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ให้ตีระฆัง3ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งสมความปรารถนา จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุด ท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น

            บทภาวนาบูชาพระมหาเจดีย์ชเวดากอง

วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ

ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันตัง ธาตุโย ธัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมะนัง ธัมมะ การะนัง ธาตุโย

ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย ธัสสะติ จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะติ อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา

*** อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสาเร็จ ***

วันเกิด

อาทิตย์

จันทร์

อังคาร      

พุธ

พุธกลางคืน

พฤหัสบดี

ศุกร์

เสาร์

สัตว์สัญลักษณ์

ครุฑ

เสือ

สิงห์

ช้างมีงา

ช้างไม่มีงา

หนูหางยาว

หนูหางสั้น

พญานาค

พร้อมรับประทานอาหารเย็นเมนูสุดพิเศษ SHABU SHABU BUFFET ทานไม่อั้น

หลังจากนั้นทำท่านเข้าพักโรงแรม  SULE SHANGRILA HOTEL ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

ย่างกุ้ง – พระนอนตาหวาน – ตลาดสก็อต – ปางช้างเผือก – พระหินอ่อน – สนามบิน – กรุงเทพ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านชม เจดีย์เจ๊าทัตจี (Kyauk Htat Gyi) หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามที่สุด มีขนตาที่งดงามพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ พระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทยเป็นศิลปะพม่าที่งดงาม มีขนาดความยาวขององค์ 70เมตร จากนั้นขับรถชมตัวเมืองย่างกุ้งชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านย่านใจกลางกรุงย่างกุ้ง

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ตลาดโบโจ๊กอองซาน (Scott Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวเมียนมาร์ สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่เมียนมาร์ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น หากซื้อสิ้นค้าที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วยทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ (หากวันที่เดินทางเกิดเหตุให้ไม่สามารถเที่ยวชมตลาดได้ ขออนุญาตปรับเปลี่ยนโปรแกรมไปชมห้างตรงข้ามแทน)

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (พิเศษเมนูสลัดกุ้งมังกร เป็ดปักกิ่ง)

นำท่านชม ปางช้างเผือก (Elephant Camp) ซึ่งในประเทศไทยไม่มีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน แต่ที่ประเทศพม่าป่าเขายังมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง ทำให้สามารถพบช้างเผือกได้ชมได้เห็นกันอยู่และช้างเผือกนั้นตรงตาม คชลักษณะ 5 ประการ คือ 1. งาอุ้มบาตร 2. ผิวเปลือกมะนาว 3. หลังโค้งเหมือนคันธนู 4. หางเป็นผู่5. เล็บขาว แล้วนำท่านเข้าชม วัดพระหินอ่อน (White Marble) เป็นพระที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียว โดยใช้ช่างผีมือที่ดีที่สุดของประเทศพม่า ปัจจุบันชาวเมืองย่างกุ้ง นิยมมากราบขอพรกันมากมาย

14.30 น.   สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง

16.30 น.   ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร  โดยสายการบิน MYANMAR AIRWAYS เที่ยวบินที่ 8M331 ** บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

18.15 น.   เดินทางถึงกรุงเทพมหานคร  โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามเที่ยวบินที่ระบุในรายการท่องเที่ยว
  • น้ำหนักกระเป๋า 20 KG
  • ค่าภาษีสนามบิน ภาษีน้ำมัน
  • ค่าห้องพักโรงแรม (ห้องละ 2 หรือ 3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการท่องเที่ยวหรือระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และค่ายานพาหนะทุกชนิดตามที่ระบุในรายการท่องเที่ยว
  • ค่าใช้จ่ายมัคคุเทศก์ / หัวหน้าทัวร์ ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุประเภท Medical Insurance คุ้มครองในระหว่างการเดินทาง วงเงิน 1,000,000 บาท

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือเอกสารต่างด้าวต่างๆ
  • ค่าระวางกระเป๋าน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด **เกิน 20 กก.
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการท่องเที่ยว ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษของโรงแรม เป็นต้น
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีหัก ณ ที่จ่ายของแต่ละประเทศ
  • ทิปไกด์และคนขับรถ ท่านละ 1,500 บาท/ท่าน/ทริป (บังคับตามระเบียบธรรมเนียมประเทศค่ะ) 
  • ทิปหัวหน้าทัวร์ตามแต่สินน้ำใจของทุกท่าน (ไม่รวมในค่าทิปไกด์ คนขับรถ ผู้ช่วยคนขับรถ แต่ไม่ได้บังคับค่ะ)

ราคา

THB 10,000,000

24 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more