HAPPY HOKKAIDO สายเปย์ 5 D 3 N
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
สนามบินดอนเมือง
20.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างต่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.50 น. ออกเดินทางสู่สนามบินชิโตเชะ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ XJ 620
วันที่ 2
สนามบินชิโตเซะ - เมืองอาซาฮิคาวา - หมู่บ้านราเมน – เมืองคามิคาว่า - พิพิธภัณฑ์น้ำแข็ง ICE PAVILLION - อาบน้ำแร่
08.40 น. เดินทางถึงสนามบินชิโตเซะเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด อยู่ทางตอนกลางของเกาะได้ชื่อว่าหนาวเย็นที่สุดในฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village)ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่านี้มีร้านราเมง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว และยังมีห้องเล็กๆที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านแห่งนี้ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้มาศึกษาอีกด้วย นอกจากนี้ราเมนยังมีวัฒนธรรมการทานที่นักท่องเที่ยวอย่างเราควรรู้เพื่อที่จะได้เข้าใจคนญี่ปุ่นมากขึ้น นั้นคือเวลาทานห้ามคีบเส้นมาใส่ช้อนก่อนแล้วค่อยทาน แต่ต้องใช้ตะเกียบคีบเส้นและเครื่องเคียงแล้วเอาเข้าปากเลย ช้อนมีไว้สำหรับซดน้ำซุปเท่านั้น และถ้าราเมนร้านไหนอร่อยมากๆคนญี่ปุ่นก็จะไม่เหนียมอายที่จะยกชามซู้ดดดด เสียงดังเป็นการให้สัญญาณกับพ่อครัวว่า “ราเมนอร่อยมาก” ยิ่งดังเท่าไหร่ยิ่งอร่อยเท่านั้น “Asahikawa Ramen” เป็นราเมงที่มีประวัติมายาวนาน สามารถนับย้อนหลังไปตั้งแต่สมัยต้นโชวะ โดยมีการผสมผสานบะหมี่หลายชนิดของจีนจนกลายมาเป็นราเมงขึ้นชื่อที่ได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ ทุกๆร้านจะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้านตนเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น ร้าน Asahikawa Ramen Aoba ที่แสนภาคภูมิใจในความเป็นราเมนเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในอาซาฮิคาว่า หรือจะเป็นร้าน Ramen Shop Tenkin ที่เชื่อมั่นในน้ำซุปของตัวเองว่าเป็นหนึ่งไม่แพ้ใคร นอกจากนี้ที่นี่ยังมีศาลเจ้า “Ramen Village Shrine” เป็นศาลเจ้าที่คู่สมรสสามารถมาขอพรเพื่อให้ชีวิตคู่รักกันยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่จากเทพเจ้า 2 องค์ คือ องค์เทพเจ้า Menkoiten ที่ให้พรคู่รักครองรักกันยาวนาน และองค์เทพเจ้า Menmadaio ให้พรคู่รักให้ซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 1 ) เมนู ราเมน (Ramen) ถือเป็นอาหารเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่น เพราะด้วยความที่กินง่ายและมีรสชาติที่หลากหลายจึงเป็นที่ถูกใจของคนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคามิคาว่า ชมความสวยงามของน้ำแข็ง ณ พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งคามิคาว่า (Kamikawa Ice Pavilion) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ความหนาวเย็นแห่งแรกและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อุณหภูมิด้านในตั้งไว้ -20 องศาเซลเซียสตลอดปี ภายในมีเสาน้ำแข็งและกำแพงน้ำแข็งขนาด 600 ตารางเมตร ที่ใช้เวลาสร้างด้วยวิธีทางธรรมชาติถึง 25 ปี ทางเดินอุโมงค์น้ำแข็งที่ประดับประดาด้วยไฟสวยงาม บาร์น้ำแข็ง และถ้ำจำลองหินงอกหินย้อย รวมถึงชมดาราขึ้นชื่อของที่นี่อย่าง คลิโอเนะ (Clione) หรือผีเสื้อทะเลซึ่งเป็นสัตว์น้ำเค็มที่อาศัยอยู่ใต้น้ำแข็ง
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็น
ที่พัก Art Hotel Asahikawa หรือเทียบเท่า
นำท่านได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้กับการแช่ออนเช็นธรรมชาติ ผ่านความร้อนใต้พิภพเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า เลือดลมเดินดีเสริมสุขภาพให้กระปรี้กระเปร่าผิวพรรณสดใสมีน้ำมีนวลช่วยระบบการเผาผลาญของร่างกายให้อยู่ในสภาพคงที่ความอัศจรรย์แห่งการอาบน้ำแร่แบบญี่ปุ่น
วันที่ 3
โทมิตะ ฟาร์ม – ซิกิไซโนะโอกะฟาร์ม – ซัปโปโร
เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 2 ) ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฟุราโนะ ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางของเกาะฮอกไกโด ได้รับฉายาว่า “เฮะ โซะ โนะ มะ ชิ” หรือ “เมืองสะดือ” เที่ยวชม ฟาร์มโทมิตะ ตั้งอยู่ในเมืองฟุราโนะ ฮอกไกโด มีการปลูกลาเวนเดอร์และดอกไม้สีสันหลากหลายชนิดในฟาร์ม และจะบานเต็มที่ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง มีสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ฟาร์มมากมาย พื้นที่จัดแสดงการจัดดอกไม้ แกลลอรี่แสดงภาพดอกไม้ในฟาร์มทั้ง 4 ฤดู พิพิธภัณฑ์ บ้านกลั่นซึ่งเป็นที่สำหรับสกัดน้ำมันหอมระเหยของลาเวนเดอร์ ร้านขายของที่ระลึกและร้านกาแฟ การเดินรอบสวนดอกไม้ฟรีตลอดปี ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตก พื้นที่ฟาร์มมีผู้เข้าชมหนาแน่นในช่วงเวลาที่ดอกไม้บานและช่วงวันหยุดยาวในญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่สถานที่อยู่ในฮอกไกโด บางครั้งมีอุณหภูมิสูงในเวลากลางวันของฤดูร้อน ดังนั้นคุณควรเข้าชมฟาร์มในช่วงเช้าของวันธรรมดาและเที่ยวชมพูมิทัศน์ที่สวยงาม ร้านขายของที่ระลึกของฟาร์มและร้านกาแฟเปิดประมาณ 8:30 a.m. ถึง 17:00 p.m. แต่เวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ทุ่งดอกไม้ฟาร์มโทมิตะมีชื่อเสียงในเรื่องลาเวนเดอร์ทิศตะวันออก หนึ่งในฟาร์มลาเวนเดอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ลาเวนเดอร์ทิศตะวันออกมีในเดือนกรกฎาคมเท่านั้น สวนดอกไม้แบ่งเป็นหลายสวนและทุ่ง: 'ทุ่ง Hanabito' 'ทุ่ง Sakiwai' 'ทุ่ง Irodori' 'ทุ่งฤดูใบไม้ผลิ' 'ทุ่งฤดูใบไม้ร่วง' 'ทุ่งป่า' 'กรีนเฮ้าส์' 'สวนของแม่' 'สวน Hanabito' และ สวนลาเวนเดอร์ดั้งเดิม 'Traditional lavender garden.' สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้หลากหลายชนิดตลอดทุกฤดู ดอกลาเวนเดอร์สวยที่สุดในเดือนกรกฎาคม นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนเพื่อชมทุ่งลาเวนเดอร์ ฤดูกาลบาน ประมาณช่วงปลายเดือนมิถุนายน - ต้นเดือนสิงหาคม (ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม – ปลายเดือนมิถุนายน จะเป็นดอกป๊อบปี้ไอซ์แลนด์ หรือ ป๊อปปี้ Oriental)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 3) ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่เมืองบิเอะ เมืองเล็ก ๆ ทีตั้งอยู่บริเวณกลางเกาะฮอกไกโด ที่ได้ชื่อว่า “Small Town Of The Most Beautiful Hills” ความเล็กที่แสนน่ารักของเมืองนี้อยู่ที่ภาพวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาวิว ระหว่างสองข้างทางที่เต็ม ไปด้วยทุ่งข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทองตัดสลับกับไร่ข้าวโพดและมันฝรั่งสีเขียวสด โดยมีสีฟ้าครามของท้องฟ้าตัดเป็นฉากหลัง สลับเนินเขา นำท่านชมสวนสวยอีกหนึ่ง ณ เนิน 4 ฤดูแห่งดอกไม้หลากสี Hill of Seasonal Colors หรือ ซิกิไซโนะโอกะฟาร์ม ชมทุ่งดอกไม้ชิดิไซ หรือ The Hill of Seasonal Colors มีวิวทิวทัศน์อันสวยงามของ ทุ่งดอกไม้ในรูปแบบพาโนรามาที่สลับสับเปลี่ยนกันอวดสีสันสะพรั่งไปตามฤดูกาล ทั้งฤดูใบไม้ผลิฤดูร้อนจนกระทั่งใบไม้ร่วง ให้ได้ชื่นชมกัน ดอกไม้หลายสีสันที่จะทำให้ท่านหลงรักเมืองนี้
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก DAIWA ROYNET HOTEL SAPPORO / APA HOTEL & RESORT SAPPORO หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
โอตารุ - คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี- ศาลเจ้าฮอกไกโด – DUTY FREE- ทานุกิโคจิ-บุฟเฟต์ขาปู
เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 4) ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองโอตารุ” โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง “คลองโอตารุ” หรือ “โอตารุอุนงะ” มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ !!!ไฮไลท์ บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกคลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้าที่กว้าง
จากนั้นชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็น!!!ไฮไลท์ หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง ถนนซาไกมาจิ ถนนซาไกมาจิเป็นถนนเก่าแก่ที่มีอายุกว่าสองร้อยปี โดยปัจจุบันสองข้างทางของถนนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกในตึกแถวโบราณ รวมถึงร้านขายเครื่องแก้ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วในแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ นอกจากนั้นถนนซาไกมาจิยังเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ถูกปรุงรสได้อย่างถึงเครื่อง และนั่นก็ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่ง ช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองวาตารุที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นที่สุด
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวัน
จากนั่นเดินทางสู่ ศาลเจ้าฮอกไกโด สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “ศาลเทพเจ้าแห่งการบุกเบิก 3 องค์” เพื่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจของค ณะผู้บุกเบิกให้มีกำลังใจที่จะฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบากในการบุกเบิกป่าบริสุทธิ์ ในปี ค.ศ. ในปีค.ศ.1869 โดยในสมัยนั้นชิมาโยชิทาเกะ ทูตบุกเบิกผู้เป็นคนดำเนินการออกแบบวางผังเมืองซัปโปโร เป็นผู้ตกลงใจที่จะสร้างศาลเจ้าขึ้น ณ พื้นที่ของมารุยามะที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาทั้งสามด้านและอีกด้านแผ่ขยายออกสู่ทุ่งราบ ในปัจจุบันจึงมีการสักการะเทพสี่องค์ และยังคงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่การมาสักการะในวันปีใหม่ การปัดเป่ารังควาญ วันเซ็ตสึบุน พิธีสมรสและอื่นๆ เป็นต้น
นำท่านสู่ DUTY FREE อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ต่างๆ ตามอัธยาศัย นำท่านช้อปปิ้ง“ ถนนทานุกิโคจิ เป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองซัปโปโร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย ร้อนดองกี ร้อน100เยน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 5 ) ณ ภัตตาคาร เมนู บุฟเฟต์ขาปู 3 ชนิด (ซูไว ทาราบะ ปูขน) พร้อม เบียร์ ไวน์ สาเก ไม่อั้น *** เฉพาะกรุ๊ป HAPPY TEAM เท่านั้น !!
ที่พัก DAIWA ROYNET HOTEL SAPPORO / APA HOTEL & RESORT SAPPORO หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
สนามบินชิโตเซะ– สนามบินดอนเมือง
09.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินชิโตเซะ สู่สนามบินนานาชาติดอนเมือง โดยสายการบิน AIR ASIA X
เที่ยวบินที่ XJ 621
15.10 น. เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
**โปรแกรมสามารถสลับปรับเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า**
ราคาทัวร์รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามรายการ
- ค่าอาหารทุกมื้อ ตามที่ระบุในรายการ
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
- ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ตามรายการ
- ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
- ค่าภาษีสนามบิน ทุกแห่งที่มี
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระไป-กลับ ท่านละ 20 กก.
- หัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตลอดรายการ
- ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
ราคาทัวร์ไม่รวม
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบเสร็จรับเงิน / ใบกำกับภาษี)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ส่วนตัว ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่ม
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ ที่หนักเกินสายการบินกำหนด (ปกติ ขาไป 20 กก. / ขากลับ 20 ก.ก.)
- ค่าวีซ่าสำหรับพาสปอร์ตต่างชาติ
- ทิปคนขับรถ และไกด์ท้องถิ่นท่านละ 1,900 บาท ต่อทริป (ชำระที่สนามบินดอนเมือง ในวันเช็คอิน)
- ทิปหัวหน้าทัวร์ ตามความพึงพอใจ