เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย  ฮาลอง จ่างอาน 5วัน4คืน เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย  ฮาลอง จ่างอาน 5วัน4คืน เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย  ฮาลอง จ่างอาน 5วัน4คืน

เวียดนามเหนือ ซาปา ฮานอย ฮาลอง จ่างอาน 5วัน4คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย – เมืองลาวไก-เมืองซาปา

09.00 น.  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประตู 5 เคาน์เตอร์ L สายการบิน เวียดนาม แอร์ไลน์ (VN) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเตรียมเอกสารการเดินทางสำหรับทุกท่านและนำท่านโหลดสัมภาระ 

11.55 น.   ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ประเทศเวียดนาม โดยสายการบิน VIETNAM AIRLINES เที่ยวบินที่ VN610

13.55 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ของกรุงฮานอย ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศเวียดนามตอนเหนือ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลาวไก โดยใช้เวลาเดินทาง 5 - 6 ชั่วโมง
    เมืองลาวไก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนามมีชายแดนติดกับเมืองเหอโข่ว มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเมืองทำการค้าสำคัญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดง ห่างจากกรุงฮานอยเมืองหลวงของประเทศเวียดนาม 260 กิโลเมตร 
    
    เดินทางเข้าสู่ “เมืองซาปา” เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาในจังหวัดลาวไก ในอดีตเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวยุโรป เนื่องจากเคยตกอยู่ในการยึดครองของประเทศฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนและตึกต่างๆ รวมถึงการวางผังเมืองจึงมีลักษณะเป็นแบบฝรั่งเศสที่ถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขาฟานซีปัน ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ทำให้เมืองซาปาแห่งนี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก 

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง     

ที่พัก  โรงแรม Gem Sapa Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ 2

เมืองซาปา - สถานีฟานสิปัน – ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าฟานซิปัน - จุดสูงสุดของยอดเขาฟานซิปัน – เที่ยวชมหมู่บ้านกั๊ต กั๊ต– น้ำตกซิลเวอร์– โบสถ์ซาปา -ตลาดซาปา พิเศษ!เมนูชาบูหม้อไฟปลาแซลม่อน และไวน์แดง

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านนั่งรถไฟสู่ สถานีฟานสิปัน ท่านสามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ความสวยงามของซาปาได้ระหว่างทางขึ้น เมื่อถึงสถานีฟานสิปัน นำท่าน ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าฟานซิปัน กระเช้าลอยฟ้าติดกระจกสามารถมองเห็นวิวเมืองซาปาและความสวยงามของธรรมชาติได้ 360 องศา ชมความงามของป่าไม้ แม่น้ำ ลำธารสายน้อยใหญ่ วิวของนาขั้นบันไดที่สวยงามเป็นที่ขึ้นชื่อของเมืองซาปาสลับไปกับหมู่บ้านของชาวเขา รวมถึงภูเขาและม่านหมอกที่เรียงตัวซ้อนกันเป็นฉากหลังที่สวยงาม ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกระเช้าจะเคลื่อนเข้าสู่ ยอดเขาฟานซิปัน ที่ได้รับฉายาว่าหลังคาแห่งอินโดจีน โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3.143 กิโลเมตร นำท่านเดินต่อไปอีกเล็กน้อยเพื่อพิชิตยอดเขาฟานซิปัน ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับสัญลักษณ์สแตนเลส 3 เหลี่ยมที่แสดงว่าท่านได้มายืนอยู่บน จุดสูงสุดของยอดเขาฟานซิปัน พร้อมสัมผัสกับเมฆหมอก และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขา    นำท่านชมทัศนียภาพด้านบนพร้อมถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และชมแนวเทือกเขาในเขตชายแดนยูนนานของประเทศจีน ระหว่างที่ท่านอยู่ด้านนนั้นหากสภาพอากาศไม่มีเมฆปกคลุมมาก ท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาฮัมรองได้อีกด้วย 

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง หลังจากรับประทานอาหารเที่ยง นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของ หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) หมู่บ้านเก่าแก่ของชาวเผ่าม้ง ตลอดเส้นทางขึ้นเขาลงเขา ท่านจะเห็นวิถีชีวิตการเป็นอยู่ที่เรียบง่ายของชาวบ้านที่นี่ เด็กๆวิ่งเล่นจับกลุ่มอยู่ตามคันนา สลับกับทิวทัศน์ของผืนนาขั้นบันไดตลอดเทือกเขา หากเป็นช่วงก่อนฤดูเก็บเกี่ยว จะมีโอกาสได้เห็นทุ่งนาสีทองอร่ามตา นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีสะพานข้าม น้ำตกกินรี หรือ น้ำตกเตียนซาน น้ำตกที่มีตำนานคล้ายคลึงกับวรรณกรรมไทยที่เล่าถึงน้ำตกที่เป็นสถานที่ชำระร่างกายของเหล่ากินรี ถือเป็นน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้าน
นำท่านชม น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall)  เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่สุดในซาปา ที่นี่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยภูเขา อยู่ริมถนน และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไกล มีความสูงประมาณ 100 เมตร ไหลเลาะลงมาจากหน้าผาหิน ท่านสามารถเดินไปชั้นบนของน้ำตกได้ น้ำตกซิลเวอร์เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดในการเยี่ยมชม ชาวเวียดนามเรียกน้ำตกนี้ว่า Thac Bac เป็นน้ำตกที่มีหลายชั้น ไหลลัดเลาะ ลดหลั่นลงมาจากหน้าผาหิน เป็นทิวทัศน์ที่งดงามมาก
จากนั้นนำท่านชม โบสถ์ซาปา สิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมแบบยุโรปในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครองเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองซาปาที่ต้องมาเช็คอินกับโบสถ์คริสต์แห่งนี้ ซึ่งโบสถ์ทำด้วยหิน สันนิฐานว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างโดยชาวฝรั่งเศส และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีมิสซาของชาวฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ช่วงเย็นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวชม ตลาดของเมืองซาปา เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซาปา สินค้าที่มาวางขายส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นมาจากชาวเขาท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่ซาปา ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าปัก สร้อย กำไล และเครื่องประดับของคนพื้นเมือง ผัก ผลไม้ และอาหารพื้นเมืองมากมาย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเก๋ๆ ตกแต่งร้านสวยงาม ให้ท่านได้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ
    
ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง เมนูชาบูหม้อไฟปลาแซลม่อน + ไวน์แดง 

ที่พัก   โรงแรม Gem Sapa Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

เมืองซาปา–เมืองฮานอย-ร้านเยื่อไผ่-เมืองฮาลอง-ฮาลอง ปาร์ค - นั่งกระเช้า 2 ชั้น – สวนดอกไม้ญี่ปุ่น – นั่งรถราง - ขึ้นชิงช้าสวรรค์ Sun wheel - การแสดงหุ่นกระบอกน้ำ

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ เมืองฮานอย ใช้เวลาในการเดินทางจากเมือง ซาปา สู่เมือง   ฮานอย ใช้เวลาโดยประมาณ 5-6 ชั่วโมง กรุงฮานอย ตั้งอยู่ทางภาคเหนือ ของประเทศเวียดนาม คำว่า “ฮานอย” หมายถึงตอนต้นของแม่น้ำ ตั้งอยู่ตอนต้นของลุ่มแม่น้ำแดง ในสมัยนั้นกษัตริย์ราชวงศ์ลี้สถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวง โดยใช้ชื่อว่า ทังล็อง แปลว่า มังกรเหิน ต่อมากษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนได้ย้ายเมือหลวงไปอยู่เมืองเว้ เมื่อตกเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีน และฝรั่งเศส ฮานอยจึงกลับมาเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2489 ดินแดนเวียดนามแยกออกเป็นสองประเทศ โดยฮานอยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ เมื่อรวมประเทศใน พ.ศ.2519 จึงเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวของเวียดนามในปัจจุบัน
ระหว่างทางนำท่านแวะ ร้านเยื่อไผ่ นำเลือกซื้อสินค้า ร้านเยื่อไม้ไผ่ จำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่ผลิตขึ้นมาจากเยื่อไม้ไผ่ เช่น พวกผ้าเช็ดต่างๆ ผ้าเช็ดพื้น ผ้าดูดฝุ่น ผ้าพันคอ ชุดคลุมไหล่ ชุดสเลค และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึง สินค้าต่างชนิดต่างๆ ทั้งของกินของใช้ เสื้อผ้าพื้นเมือง ไปจนถึงกาแฟที่มีชื่อเสียง

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาลอง ดินแดนแห่งมังกรหลับไหล ใช้เวลาเดินทางโดยรถโค้ชประมาณ 2.30 ชม. เมืองฮาลองมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังคือ อ่าวฮาลอง ที่ได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินแห่งเมืองเวียดนาม เพราะมีเกาะหินปูนน้อยใหญ่จำนวนกว่า 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวน้ำทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ด้วยความความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและความสวยงามของอ่าวฮาลอง ทำให้องค์กรยูเนสโกประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในปี 2537

    จากนั้นเดินทางสู่ ฮาลอง ปาร์ค นำท่านนั่งกระเช้า 2 ชั้นเพื่อข้ามอ่าวฮาลองไปยังเกาะ BAI CHAY ระหว่างนี้ให้ท่านได้ชมวิวอ่าวฮาลองพร้อมถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศของอ่าวฮาลอง และภาพของเมืองฮาลองที่ตั้งตระหง่าอยู่ด้านล่าง ให้ท่านเพลิดเพลินกับกิจกรรมใน ฮาลองปาร์ค ไม่ว่าจะเป็น การเที่ยวชมสวนดอกไม้ญี่ปุ่น เพลิดเพลินกับการนั่งรถราง  หรือขึ้นชิงช้าสวรรค์ Sun wheel เพื่อชมทัศนียภาพมุมสูงของอ่าวฮาลองและบรรยายกาศช่วงพลบค่ำ อิสระให้ทุกท่านได้เก็บภาพความประทับใจ
    
    หรือชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เป็นศิลปกรรมประจำชาติ หุ่นกระบอกน้ำเป็นการ    ผสมผสานระหว่างความหลงไหลในเทพ กับความรักชาติอย่างรุนแรงจนเป็นสิ่งปลูกฝังกันมาในจิตใจ    ของชาวเวียดนาม นักเชิดหุ่นจะยืนอยู่หลังฉากและมีน้ำท่วมถึงบริเวณเอว และควบคุมตัวหุ่นด้วยไม้ไผ่ลำยาว สำหรับเทคนิคการเชิดนั้นได้ถูกปิดบังเป็นความลับอย่างมิดชิด และมีเพียงแค่แห่งเดียวในโลก

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง เมนูอาหาร Seafood อิสระช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ฮาลองไนท์มาร์เก็ต สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของฝากและของที่ระลึกทำจากไม้ งานหัตถกรรมพื้นเมือง เสื้อผ้า กระเป๋า และอีกมากมาย

ที่พัก  โรงแรม Pusan Halong Hotel หรือเทียบเท่า 

วันที่ 4

เมืองฮาลอง – ล่องเรืออ่าวฮาลอง - ถ้ำนางฟ้า – หมู่บ้านชาวประมง – เกาะไก่ชนกัน –ร้านหยก- เมืองนิงห์บิงห์ – วัดไบ่ดิงห์ พิเศษ!!! เมนูอาหารทะเล+ไวน์แดงดาลัด

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้า   นำท่านออกเดินทางสู่ท่าเรือ อ่าวฮาลอง ชมความงดงามตามธรรมชาติที่สรรค์สร้างด้วยความงดงามของอ่าวฮาลองเบย์ หากเล่าตามนิทานปรัมปราของชาวเวียดนาม ได้เล่าไว้ว่าในอดีตนานมาแล้วระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมา ช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน   ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมา อัญมณีเหล่านี้จึงกลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่ว  อ่าวจึงเป็นเกราะป้องกันจากผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินของพวกเขาได้สำเร็จแลก่อตั้ง   ประเทศ ซึ่งต่อมาก็คือเวียดนามในปัจจุบัน

นำท่าน ล่องเรือชมอ่าวฮาลอง ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม และเป็นส่วนหนึ่งในอ่าวตังเกี๋ย มีชายฝั่งยาวเป็นระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร ท่านจะพบกับวิวทิวทัศน์ หันมองไปทางไหนก็สวยงาม เห็นผืนน้ำสีเขียวสวยและหมู่เกาะหินปูนน้อยใหญ่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำทะเลที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ถือเป็นสถานที่เที่ยวชมธรรมชาติของเวียดนามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ 

    นำท่านชม ถ้ำนางฟ้า พาท่านชมหินงอกหินย้อยแห่งอ่าวฮาลองที่มีอายุนับล้านปี มีโครงสร้างสลับซับซ้อนกันหลายชั้นพร้อมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม ภายในถ้ำจะเห็นได้ว่าหินงอกหินย้อยต่างๆนั้นจะมีลักษณะรูปทรงแตกต่างกันออกไป ตามแต่ท่านจะจินตนาการ ขึ้นอยู่ว่าแต่ละท่านจะตีความออกมาว่าเป็นรูปทรงเหมือนสิ่งใด ในถ้ำเราจะเห็นหินรูปนางฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาจากทางธรรมชาติที่ติดอยู่ภายในผนังถ้ำ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งและมีตำนานเล่าขานกันว่ามีเหล่านางฟ้าเข้ามาอาบน้ำในถ้ำแห่งนี้และเกิดหลงไหลชายหนุ่มผู้ที่เป็นมนุษย์เลยคิดที่จะไม่อยากกลับสวรรค์ จนกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปกลุ่มนางฟ้าทั้งหลายเลยกลายเป็นหินติดอยู่ที่ผนังถ้ำอย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากนั้นผ่านชม หมู่บ้านชาวประมง แหล่งทำประมงดั้งเดิมของชาวเวียดนาม และ เกาะไก่ชนกัน สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของฮาลองเบย์ เป็นเกาะที่มีลักษณะคล้ายกับไก่หันหน้าชนกัน มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เกาะไก่จูบกัน

กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือ เมนูอาหารทะเล+ไวน์แดงดาลัด  หลังจากรับประทานอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองนิงห์บิงห์ อยู่ทางตอนใต้ของกรุงฮานอยลงมาประมาณ 90 กิโลเมตร พื้นที่แห่งนี้โอบล้อมด้วยภูเขามากกมายกว่า 90 ลูก เมืองนิงห์บิงห์เคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน แต่ในภายหลังได้ย้ายเมืองหลวงไปเป็นเมืองฮานอยแทน
ระหว่างทางนำท่านชม ร้านหยก (Jade Shop) ศูนย์รวมสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง คุณภาพดีของเมือง 
    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดไบ่ดิงห์ วัดในพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีเนื้อที่กว่า 4,300 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือวัดเดิม และส่วนที่ทางรัฐบาลสร้างขึ้นมาใหม่บริเวณเชิงเขา วัดเดิมถูกก่อสร้างขึ้นบนภูเขาดิงห์มาแล้วกว่า 1,000 ปี โดยต้องเดินขึ้นไปจากเชิงเขาผ่านบันไดหินประมาณ 300 ขั้น เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของเมืองนิงห์บิงห์ ภายในวัดมีพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุด น้ำหนักกว่า 100 ตัน และยังมีพระพุทธรูปกว่า 500 องค์ ถูกตั้งเรียงกันไปโดยมีความยาวถึง 3 กิโลเมตรยาวที่สุดในเอเชีย ที่พลาดไม่ได้เลยคือเจดีย์สูง 13 ชั้น และระฆังที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม สูง 22 เมตร หนัก 36 ตัน บรรยากาศโดยรอบจะเป็นสวนที่มีพันธุ์ไม้หลายชนิด ลานพิธี และอาคารสำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ ท่านจะได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมในวัดไปพร้อมกับวิวทิวเขาที่สูงสง่า และวัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประชุมชาวพุทธนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ในปี ค.ศ. 2014 อีกด้วย

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม 

ที่พัก  โรงแรม Yen Nhi Hotel Ninh Binh หรือเทียบเท่า 

วันที่ 5

เมืองนิงห์บิงห์ –จ่างอาน–ล่องเรือชมความสวยงามของจ่างอ่าน-กรุงฮานอย – สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย – กรุงเทพมหานคร

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้านำท่านออกเดินทางสู่ จ่างอาน สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเวียดนาม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงของจังหวัดนิงบิ่งห์ สถานที่ที่มากด้วยคุณค่า ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างแม่น้ำ ภูเขา ท้องฟ้าสดใสปกคลุมด้วยปุยเมฆสีขาว ถ้ำเก่าแก่ และร่อยรอยประวัติศาสตร์ของยุคราชวงศ์ นำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของจ่างอ่าน พื้นที่ที่มีทั้งภูมิทัศน์อันงดงามของยอดเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน และยังถูกล้อมรอบด้วยผาสูงชัน รวมถึงมีร่องรอยทางโบราณคดีที่เผยให้เห็นการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์สมัยโบราณอยู่มากมาย นอกจากจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังระดับโลก อย่างไรก็ตามการได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำนี้ทำให้ จ่างอ่าน กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมเกาะนี้เป็นอย่างมาก

จากนั้นนำท่านออกเดินทางกลับสู่ เมืองฮานอย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง เพื่อเดินทางสู่สนามบิน กรุงฮานอย 

กลางวัน   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในสนามบิน Ngoc Suong 

15.55 น.  ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน VIETNAM AIRLINE เที่ยวบินที่ VN619    

18.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการรวม
⦁    ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับตามรายการที่ระบุ รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน 
⦁    ค่ารถโค้ชปรับอากาศ 
⦁    โรงแรมที่พักตามที่ระบุ หรือเทียบเท่า (พัก 2-3 ท่าน/ห้อง) 
⦁    ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ   
⦁    ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ  
⦁    ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวก ตลอดการเดินทาง
⦁    ค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุในการเดินทางท่องเที่ยว วงประกันท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรรมธรรม์)
⦁    ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
⦁    ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด           ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ
⦁    ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศเวียดนาม กรณีประกาศให้กลับมายื่นร้องขอวีซ่าอีกครั้ง (เนื่องจากทางเวียดนามได้ประกาศยกเว้นการยื่นวีซ่าเข้าประเทศให้กับคนไทยสำหรับผู้ที่ประสงค์พำนักระยะสั้นในประเทศเวียดนามไม่เกิน 30 วัน)
⦁    ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
⦁    ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
⦁    ค่าทิปไกด์และคนขับ รวมเป็น 1,000 บาท ต่อลูกค้า 1 ท่าน ส่วนค่าทิปหัวหน้าทัวร์ท่านละ 200บาท ต่อลูกค้า 1 ท่าน 
⦁    ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %

เดินทางขึ้นต่ำ 25 ท่าน หากต่ำกว่ากำหนด กรุ๊ปจะไม่สามารถเดินทางได้ หากผู้เดินทางทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะประสานงานในการเดินทางตามประสงค์ให้ท่านต่อไป ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางและเลื่อนการเดินทางไปในวันอื่นต่อไป โดยทางบริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 

 

ราคา

THB 10,000,000

16 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more