ONCE IN FUKUOKA 5 D 3 N (BY SL) ONCE IN FUKUOKA 5 D 3 N (BY SL) ONCE IN FUKUOKA 5 D 3 N (BY SL) ONCE IN FUKUOKA 5 D 3 N (BY SL)

ONCE IN FUKUOKA 5 D 3 N (BY SL)

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – สนามบินดอนเมือง

20.30 น.    พร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง ชั้น 3 ประตูหมายเลข 7 สายการบินไทยไลอ้อน แอร์ เคาน์เตอร์ 8 เพื่อเตรียมตัวเดินทาง และผ่านขั้นตอนการเช็คอิน

23.00 น.    เดินทางสู่ สนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ SL 314 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)

วันที่ 2

ฟุกุโอกะ – ศาลเจ้าดาไซฟุ – เบปปุ – หมู่บ้านยูฟูอิน – บ่อทะเลเดือดจิโกกุ เมกุริ - บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ แช่ออนเซ็น

07.00 น.    ถึงสนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นดินแดนอาทิตย์อุทัย ... ผ่านพิธีศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ  นำท่านเดินทางสู่เมือง “ฟุกุโอกะ” เมืองเล็กๆ ของแดนอาทิตย์อุทัย ใครได้ไปสัมผัสแล้วจะหลงใหลเสน่ห์ของเมืองนี้ที่แม้จะเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าแต่ก็แฝงกลิ่นอายของวัฒนธรรมโบราณอันสงบเงียบ เมืองเล็กๆ แห่งนี้จึงมีทั้ง 2 อารมณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเสน่ห์ของฟูกูโอกะ ซึ่งเลื่องชื่อจนได้รับการจัดอันดับของนิตยสาร ASIA Week ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเอเชีย ขณะที่สหประชาชาติทำนายว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากลาสเวกัส  ชม “ศาลเจ้าดาไซฟุ” วัดชินโตเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรู้ จึงมีนักเรียนนิสิต นักศึกษามากราบไหว้ขอพร เพื่อการศึกษาไม่เว้นแต่ละวัน ในฤดูใบไม้ผลิภายในวัดมีต้นบ๊วยนานาพันธ์มากกว่า 6,000 ต้นเจริญเติบโตอย่างหนาแน่นทั่วบริเวณวัด ให้บรรยากาศที่แสนรื่นรมย์

ด้านหน้าศาลเจ้ามี รูปหล่อวัวเทพเจ้า นอนเฝ้าอยู่บนแท่นด้วยความเชื่อที่ว่า ถ้าลูบหัววัวแล้วจะมีปัญญาดีและมีสุขภาพแข็งแรง ใครต่อใครจึงพากันลูบหัววัวตัวนี้ด้วยความเอ็นดู

อิสระให้ท่านได้ “ชมและซื้อ” สินค้าของฝากของที่ระลึกที่เป็นสินค้าพื้นเมืองที่ร้านค้ากว่า 100 ร้านบริเวณหน้าวัดรวมถึงร้านขนมขึ้นชื่ออย่าง อูเมะกาเอะ โมจิ” ขนมหวานที่ทำจากถั่งแดงห่อแป้งข้าวเหนียวแล้วนำไปปิ้ง หรือจะเลือกซื้อ ตุ๊กตาฮากะ ฮาริโกะ ที่ทำจากกระดาษปั้นเป็นกอ้นและระบายตกแต่งเป็นรูปหน้า คนญี่ปุ่นเชื่อว่า เป็นตุ๊กตานำโชค

เที่ยง     บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ “เมืองเบปปุ” ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลตะวันออกของเกาะคิวชูเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำแร่ที่เป็นบ่อโคลน จัดเป็นเมืองที่มีรีสอร์ทน้ำแร่มากที่สุดนักท่องเที่ยวสามารถลองแช่น้ำแร่หลายหลากชนิดได้  นำท่านเข้าสู่ หมู่บ้านยุฟุอิน เป็นต้นแบบของหมู่บ้าน OTOP ของประเทศญี่ปุ่น และเมืองนี้มีชื่อเสียง อีกอย่างในเรื่องของน้ำพุร้อน ภายในเมืองมีทะเลสาบ Lake Kinrin  ทะเลสาบแห่งนี้ที่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของหมู่บ้านยูฟูอินหมู่บ้านยูฟูอินประกอบไปด้วยร้านค้าขายของพื้นเมือง ผักและผลไม้สด ของที่ระลึก Handmade น่ารักๆ มากมายและยังมีขนมขึ้นชื่ออย่าง "โคร็อกเกะ" (มันชุบเกล็ดขนมปังทอด) โดยตัวเมืองยุฟุอินนั้นตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในหุบเขาสีเขียวอันงดงาม ปัจจุบันเมืองยุฟุอินได้กลายเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยือน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำพุร้อน (JigokuMeguri) หรือบ่อน้ำพุร้อนขุมนรกทั้งแปด เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟ ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่เข้มข้น เช่น กำมะถัน แร่เหล็ก โซเดียม คาร์บอเนต เรเดียม เป็นต้น และร้อนเกินกว่าจะลงไปอาบได้ แล้วบ่อทั้ง 8 บ่อ ก็ตั้งชื่อให้น่ากลัวตามลักษณะภายนอกที่เห็นกัน นำท่านชม ชิโนอิเกะ จิโกกุ หรือ บ่อน้ำแร่สีเลือด น้ำแร่สีแดงที่เกิดจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่น้ำแร่ใสบริสุทธิ์รวมตัวกับแร่ธาตุต่างๆ ภายในบ่อทำให้น้ำพุร้อนกลายเป็นสีแดง

จากนั้นนำท่านชมบ่อทะเลเดือด ยูมิ-จิโกกุ (UmiJigoku) ซึ่งเป็น 1 ใน 8 บ่อน้ำพุร้อนชื่อดัง ยูมิ จิโกกุ เป็นบ่อน้ำร้อนสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ด้วยความลึก 150 เมตร กำเนิดขึ้นหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีก่อน มีส่วนประกอบของแร่โคบอลต์ ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมารอบๆ บ่อตลอดเวลา อุณหภูมิของน้ำสูงถึง 98 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่ให้สุกได้ บ่อนี้แม้น้ำจะร้อนเกินกว่าจะลงไปแช่ได้ แต่ก็มีผงน้ำแร่วางจำหน่ายในร้านขายของที่ระลึก ให้นำไปละลายน้ำอาบเองที่บ้านได้ สรรพคุณทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและรักษาโรคผิวหนังได้ ก่อนออกมาอย่าลืมไปนั่งแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนใต้ศาลา (ออนเซ็นเท้า) จะทำให้รู้สึกสบายเท้า และมีแรงเดินเที่ยวต่อไป ซึ่งให้บริการแก่นักท่องเที่ยวฟรี จะนั่งแช่นานเท่าใดก็ได้ (รวมค่าเข้าชมบ่อน้ำแร่ 2 บ่อ)

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  *** ให้ท่านได้อิ่มอร่อยกับมื้อพิเศษที่มีขาปูยักษ์ให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติปูพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด

พักที่ BEPPU SEAWAVE HOTEL /BEPPU SEIFU HOTEL หรือระดับเดียวกัน

ให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น

วันที่ 3

วัดนาริตะซังคุรุเมะ - ซากะ - ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ– ช้อปปิ้งโทซุ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต – ฟุคุโอกะ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดนาริตะซังคุรุเมะ หรือเรียกย่อๆว่า "วัดนาริตะซัง" ตั้งอยู่ในเมืองคุรุเมะ วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1958 และจุดเด่นของวัดแห่งนี้นั้นก็คือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ซึ่งมีความสูงกว่า 62 เมตร และยังถือเป็นรูปปั้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย  จุดบนหน้าผากขององค์เจ้าแม่กวนอิมนั้น ทาจากแผ่นทองซึ่งเมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร และยังประดับประดาไปด้วยเพชร 3 กะรัตกว่า 18 เม็ด ในส่วนของสร้อยคอนั้น ประดับประดาไปด้วยคริสตัลและหยกจำนวน 56 ชิ้น และเด็กทารกที่อุ้มอยู่นั้นก็มีความสูงกว่า 13 เมตร  ภายในรูปปั้นนี้นมีบันไดวนไปสู่ห้องสังเกตการณ์ ซึ่งคุณสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขา Unzen ได้ หรือจะเข้าสู่อุโมงค์ใต้ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑ์นรกและสวรรค์" ก็ได้  นอกจากนี้ที่วัดแห่งนี้ยังมีเจดีย์พุทธคยาแบบอินเดีย ซึ่งถือเป็นหลังแรกในญี่ปุ่นด้วย (ไม่รวมค่าเข้าชมภายในตัวอาคารท่านละ 500 เยน)

เที่ยง     บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซากะ นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) สร้างขึ้นในปี 1688 เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ประจำตระกูลนาเบะชิมะผู้ปกครองเมืองซากะ ในสมัยเอโดะ เป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 รองมาจาก ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริในเกียวโต และศาลเจ้าคะซะม่าอินาริในอิบาระกิ ด้านบนของตัวศาลเจ้า ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่งโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ส่วนหน้าศาลเจ้าก็ยังมีสะพานสีแดงคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามเลยทีเดียว  ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนต่างนิยมไปสักการะขอพรเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว ความสำเร็จด้านธุรกิจ และความปลอดภัย อีกทั้งศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในฉากละคร "กลกิมโมโน"

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนเนมที่ โทซุพรีเมี่ยมเอ้าท์เล็ต เป็นพื้นที่ช้อปปิ้งเอ้าท์เล็ตขนาดใหญ่ มีร้านค้าของแบรนด์ชั้นนำและแบรนด์ท้องถิ่นมากกว่า 150 ร้าน เช่น Coach, Armani, Timberland, Burbery, Gap, Puma, Levi’s, Nike, New Balance, Samsonite และอื่นๆอีกมากมาย สามารถช้อปปิ้งได้ครบทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กเล็ก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ โดยแต่ละร้านก็จะมีโปรโมชั่นส่วนลดมากมาย

** เพื่อสะดวกในการช้อปปิ้งของท่านอิสระค่ำตามอัธยาศัย** 

สมควรแก่เวลานำท่านกลับที่พัก

พักที่ ROUTE INN GRANTIA DAZAIFU หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 4

อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าเดินทาง)

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

อิสระให้ท่านได้ท่องเที่ยวตามอัธยาศัยภายในเมืองฟุกุโอกะ (ไม่รวมค่าเดินทาง)

***อิสระรับประทานอาหารกลางวันและอาหารค่ำ (เพื่อไม่รบกวนเวลาการช้อปปิ้ง) **

เชิญท่านเพลิดเพลินกับอิสระช้อปปิ้งตามแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง 

⦁  Canal City Hakata  อาณาจักรหรูแห่งการช้อปและความบันเทิงหลายรูปแบบที่รวมไว้ในที่เดียว ทั้งโรงหนัง, game center, โรงแรมและร้านแบรนด์เนมมากมาย ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นแท้และแบรนด์ต่างประเทศรวมกว่า 250 ร้าน ส่วนใครช้อปจนตาลายอยากแวะเติมพลัง ก็มีร้านอาหารเปิดบริการหลากหลายประเภท และบนชั้น 5 มี Ramen Stadium หรือบางคนจะเรียกว่าศูนย์อาหารที่ขายเฉพาะราเมงก็ไม่ว่ากัน ใครชอบร้านไหนเลือกได้ตามสะดวก และเป็นอีกแหล่งที่มีฮากะตะราเมงให้ลองชิมกันด้วย นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละคร “รักคุณเท่าฟ้า”

⦁  Marinoa City Outlet ช้อปปิ้งมอลล์ริมทะเลแห่งใหญ่นี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองฮากะตะ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ท้องถิ่นแต่ก็มีแบรนด์อินเตอร์บางส่วนนะคะ อย่าง Coach, Gap, Beams, Wacoal, Triumph ช็อปจะมีทั้งที่เป็นเอาท์เล็ตและเป็นช็อปธรรมดา ซึ่งส่วนใหญ่เน้นแฟชั่นดีไซน์ ทั้งรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า ชุดกีฬา นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน ของใช้สำหรับเด็ก และ Game Zone และนอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์ไว้คอยให้บริการอีกด้วย

⦁ Tenjin Underground Shopping Mall อยู่ใต้ดินสถานี Tenjin ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ที่มีร้านค้าให้เลือกช้อปกันอย่างจุใจกว่าร้อยร้าน แบ่งเป็นบล็อคๆ ตั้งเรียงรายซ้าย-ขวาตลอดทางเดินความยาวกว่า 600 เมตร บรรยากาศโดยรวมและบรรดาร้านรวงต่างๆ ตกแต่งร้านกันอย่างน่ารัก ดูดี มีกลิ่นอายสไตล์ยุโรปในยุคศตวรรษที่ 19  สินค้าส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เหมาะกับวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยเฉพาะเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ accessories

⦁  ถนนช้อปปิ้ง Hakata Kawabata ถนนช้อปปิ้งแบบมุงหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดของฮากะตะ ที่ช้อปปิ้งที่นี่จะเล็กกว่าที่อื่น ตลอดทั้งสองข้างทางเดินยาว 400 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้ากว่าร้อยร้าน สินค้าก็มีเลือกซื้อมากมายประเภททั้งเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทั่ว ๆ ไป ทีเด็ดของที่นี่คือร้านที่มีสินค้าจากเต้าหู้ มีทั้งมาสก์เต้าหู้ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ และผลิตภัณฑ์น้ำเต้าหู้แท้ๆ ของฟุกุโอกะที่ต้องลอง

⦁  ย่านซุ้มขายอาหารสไตล์ยาไตริมแม่น้ำ(Yatai Food Stall) รถเข็นขายอาหารหรือที่เรียกกันว่ายาไต(Yatai)เป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ โดยทั่วๆไปร้านแบบยาไตมักจะมีที่นั่งได้แค่ 6-10 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งมักจะขายอาหารที่สามารถกินได้เร็วๆแต่อยู่ท้อง ทั่วทั้งเมืองฟูกุโอกะจะมีอยู่ประมาณ 150 ร้าน แต่บริเวณที่น่าสนใจที่สุดจนปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไปแล้ว ก็คือแถวตอนใต้ของเกาะนาคาสุ(Nakasu Island)ที่อยู่กลางเมืองฟูกุโอกะ เพราะจะมีร้านอาหารแบบยาไตรวมกันอยู่ประมาณ 10 ร้านตลอดทางเดินริมน้ำที่ได้บรรกาศดี

พักที่ ROUTE INN GRANTIA DAZAIFU หรือระดับเดียวกัน

วันที่ 5

ฟุกุโอกะ – กรุงเทพฯ

07.50 น.   เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทยไลอ้อน แอร์ เที่ยวบินที่ SL315 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

11.55 น.   ถึงสนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมคณะ             
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 30 กก.  
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน  
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ    
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ            
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์คอยบริการตลอดการเดินทาง 
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน) **ถ้ากรณีที่ทางรัฐบาลประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าเพิ่ม ท่านละ 1,700 บาท**
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ (กรุณาสอบถามจากหัวหน้าทัวร์ก่อนการใช้บริการ)
  • ค่าทิปคนขับรถ หัวหน้าทัวร์ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 1,500 บาท /ทริป/ต่อท่าน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น (เพราะรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน)

ราคา

THB 10,000,000

19 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more