EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N) EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N)

EASY WINTER ENCHANTED SWITZERLAND - ITALY (7 D 4 N)

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ

21.00 น.   คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ D ประตู 3-4 ของสายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

00.35 น.    ออกเดินทางสู่ ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบินที่ TG970 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน

วันที่ 2

ซูริค – ลูเซิร์น – สะพานไม้ ชาเปล – อนุสาวรีย์รูปสิงโตหินแกะสลัก – ช้อปปิ้ง – กรุงเบิร์น – ชมเมือง – หอนาฬิกาแห่งเบิร์น – บ่อหมี – โลซานน์

06.55 น.     เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ ลูเซิร์น (Lucerne) ระยะทางประมาณ 65.6กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที เมืองตากอากาศที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ 

นำท่านชม สะพานไม้ ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำรอยส์ มีอายุมากกว่า 600 ปี และเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และถ่ายภาพกับ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหินแกะสลัก (The Lion Monument) อนุสาวรีย์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและเสียสละ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารสวิสที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังพระราชวังตุย เลอรีย์ ของฝรั่งเศส และอิสระให้ท่าน เดินเล่นชมบรรยากาศย่านเมืองเก่า ที่งดงามหรือ เดินเลือกซื้อสินค้าชื่อดังของสวิส อาทิ นาฬิกา, มีดพกทหารสวิส, ช็อคโกแลต ฯลฯ ตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

กลางวัน    อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่รบกวนเวลาชมเมืองและช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) ระยะทางประมาณ 113 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1191 ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอาเร ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ กรุงเบิร์นได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) และยังถูกจัดอันดับอยู่ 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกอีกด้วย

นำท่านชมย่านเมืองเก่า ชมสถานที่สำคัญของเมือง และชม ซึทกลอกเกอ (Zytglogge) หรือ หอนาฬิกาที่มีมาตั้งแต่ในสมัยยุคกลาง ถูกสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบิร์น แล้วนำท่านชม บ่อหมีแห่งเบิร์น ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองและยังเป็นโลโก้หรือสัญลักษณ์ประจำเมืองอีกด้วย

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ โลซานน์ (Lausanne) ระยะทางประมาณ 101 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เมืองริมทะเลสาบเลอม็อง เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุคกลาง และยังคงความงดงามมาจวบจนปัจจุบัน อีกทั้งเป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อปวงชนชาวไทย เพราะเคยเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จย่า และในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้นทรงพระเยาว์

ค่ำ    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน (1) 

พัก ณ โรงแรม Novotel Lausanne Bussigny หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 3

โลซานน์ – มหาวิทยาลัยโลซาน – อดีตสถานที่ประทับของราชนิกุลมหิดล – โรงแรมโบริวาจ – ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ – ทะเลสาบ เลอม็อง – ปราสาทชิลยอง – แทสช์ – นั่งรถไฟสู่เซอร์แมท

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (2)

นำท่านผ่านชม มหาวิทยาลัยโลซาน (Université de Lausanne) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1537 เป็นสถาบันในระดับอุดมศึกษาของราชสกุลมหิดล โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงศึกษาทางด้านวิชาเคมี, รัชกาลที่ 8 ทรงศึกษาด้านนิติศาสตร์ และรัชกาลที่ 9 ทรงเลือกเรียนวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อท่านเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ทรงเปลี่ยนมาเรียนรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์แทน

และนำท่านชม แฟลตเลขที่ 16 ถนนทิสโซ (No.16 at Avenue Tissot) เคยเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จย่า พร้อมทั้งพระพี่นางเธอฯ, รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ในวัยเยาว์ โดยบริเวณโรงรถของแฟลตแห่งนี้ เป็นที่หัดจักรยานของรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9

นำท่านชม โรงแรมโบริวาจ (Beau-Rivage Palace) ที่ประทับของพระบรมราชชนกกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หลังทรงอภิเษกสมรส และเดินทางมายุโรปเพื่อฮันนีมูนและศึกษางานทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข นำท่านถ่ายภาพกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Thai Pavilion) สร้างขึ้นในวโรกาสที่รัชกาลที่ 9 ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี พร้อมกับความพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ จัดสร้างโดยรัฐบาลไทย โดยมีสมเด็จพระเทพฯ เสด็จประกอบพิธีเปิดศาลาอย่างเป็นทางการ 

แล้วนำท่านชมบริเวณริม ทะเลสาบ เลอม็อง (Lac Leman) ที่มีแนวทิวเทือกเขาแอลป์ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง โดยรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ทรงใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและทรงเรือใบและกรรเชียงเรือในทะเลสาบแห่งนี้

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (3)

นำท่านแวะชม ปราสาทชิลยอง (au de Chillon) ปราสาทที่ยื่นออกไปในทะเลสาบเลอม็อง จึงมีบรรยากาศที่สวยงาม สร้างโดยท่านดยุคแห่งซาวอย ตั้งแต่สมัยคริสต์ศวรรษที่ 11 สร้างขึ้นเพื่อใช้ควบคุมเส้นทางการสัญจร

แล้วนำท่านเดินทางสู่ แทสช์ (Täsch) ระยะทางประมาณ 136 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที เมืองเล็กๆ ท่ามกลางหุบเขา เปรียบเสมือนเมืองหน้าด่านของ เซอร์แมท 
และนำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถไฟเข้าสู่ เซอร์แมท(Zermatt) หนึ่งในเมืองตากอากาศที่สวยงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่กลางหุบเขาซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่อากาศบริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะเมืองแห่งนี้ห้ามรถที่ใช้แก๊สและน้ำมันเข้ามา นอกจากระบบไฟฟ้าเท่านั้น

** กรุณาเตรียมแยกกระเป๋าใบเล็ก 1 ใบ ใส่ของมีค่าและของใช้จำเป็น เพื่อเข้าพักที่เซอร์แมท เนื่องจากการเข้าเมืองเซอร์แมท จะต้องเปลี่ยนเป็นนั่งรถไฟเข้าไป รถไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะฉะนั้นกระเป๋าใบใหญ่จะอยู่บนรถโค้ช และควรเตรียมเสื้อคลุมหรือเสื้อกันหนาวเข้าไปด้วย เพราะอากาศภายในเมืองค่อนข้างหนาวเย็น**

ค่ำ    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (4) 
พิเศษ... เมนูฟองดู อาหารประจำชาติ ต้นตำรับจากสวิตเซอร์แลนด์

พัก ณ โรงแรม Simi Zermatt  หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 4

เซอร์แมท – นั่งรถไฟสาย กอร์นเนอร์แกรท – ยอดเขาแมทเทอร์ฮอน – เซอร์แมท – นั่งรถไฟสู่แทสช์ – มิลาน

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (5)

นำท่านนั่งรถไฟสาย กอร์นเนอร์แกรท (Gornergrat Bahn) ขึ้นสู่ยอดเขา เพื่อชมความงามของ ยอดเขาแมทเทอร์ฮอน (Matterhorn) มีความสูง 4,447 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นยอดเขาทรงพีระมิดที่สูงเด่นเป็นสง่าท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดเขาที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของยอดเขาแห่งนี้ ทำให้ภาพของแมทเทอร์ฮอนกลายเป็นสัญลักษณ์ของช็อกโกแล็ตทับเบอโรนที่โด่งดัง และบริษัทผู้ผลิตหนังรายใหญ่อย่างพาราเมาท์พิคเจอร์ อันเป็นภาพที่จดจำของผู้คนจากทั่วโลก อิสระให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ในมุมมอง 360 องศา ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับยอดเขาแมทเทอร์ฮอน และเทือกเขาน้อยใหญ่ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลานัดหมาย นำท่านนั่งรถไฟลงสู่เซอร์แมท และอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองหรือช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

กลางวัน    อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่รบกวนเวลาในการเที่ยวชมเมืองและช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลาสมควร นำท่านนั่งรถไฟสู่ แทสช์ และเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศอิตาลี่ มุ่งหน้าสู่ มิลาน (Milan) ระยะทางประมาณ 229 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 10 นาที เมืองศูนย์กลางทางด้านธุรกิจ การค้า และแฟชั่นที่สำคัญของประเทศอิตาลี

ค่ำ    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น (6)

พัก ณ โรงแรม Grand Milano Malpensa หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 5

มิลาน – Serravalle designer outlet – มิลาน – มหาวิหารแห่งมิลาน – แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอ็มมานูเอลที่ 2 – ช้อปปิ้งย่าน Via Montenapoleone

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (7)

นำท่านเดินทางสู่ Serravalle designer outlet ระยะทางประมาณ 93.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที เอาท์เล็ตชื่อดังของอิตาลี ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาสุดพิเศษมากมายหลากหลายยี่ห้อ เช่น Armani, Bottega Verde, Bulgari, Byrberry, Dolce & Gabbana, Coach, Gucci, Prada, Salvatore Ferragamo, Versace และสินค้าแบรนด์ดังอีกมากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

กลางวัน    อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย เพื่อไม่รบกวนเวลาในการช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางกลับมิลาน นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ดูโอโมหรือมหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ.1386 เสร็จสมบูรณ์ ในปี ค.ศ. 1965 รวมระยะเวลาในการก่อสร้างมากกว่า 500 ปี สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความสูงถึง 157 เมตร ความโดดเด่นของดูโอโม อยู่ที่ยอดแหลมบนหลังคา บนยอดใหญ่ตรงกลางมีพระรูปแม่พระ ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเรียกกันว่า มาดูนีนา ชมหรือช้อปปิ้งสินค้าที่ แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอ็มมานูเอลที่ 2 (Galleria Vittorio Emanuele II) อาคารศูนย์การค้าที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และไม่ควรพลาดกับย่าน Via Montenapoleone  แหล่งรวมแบรนด์ดังของอิตาลี อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ    อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่รบกวนเวลาในการช้อปปิ้งของท่าน

พัก ณ โรงแรม Grand Milano Malpensa หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ 6

มิลาน

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (8)

นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิลาโน มัลเปนซา เพื่อเตรียมตัวกลับสู่ กรุงเทพมหานคร

13.05 น.  ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TG941 บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน

วันที่ 7

กรุงเทพฯ

05.55 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามเที่ยวบินที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้น ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถอัพเกรดเป็นชั้นธุรกิจได้ หากต้องการนั่งชั้นธุรกิจ ท่านจะต้องจองตั๋วเดี่ยว กรุณาเช็คราคากับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
  • ค่าภาษีสนามบิน ภาษีน้ำมัน
  • รถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้ขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน) 
  • โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน พักห้องละ 2 หรือ 3 ท่าน (หมายเหตุ : ทางบริษัทจะพยายามเลือกใช้โรงแรมที่มีเครื่องปรับอากาศภายในห้องพัก แต่เนื่องจากทวีปยุโรปอยู่ในแถบอุณหภูมิต่ำ ในบางเมืองจะไม่มีเครื่องปรับอากาศให้บริการ อีกทั้งในช่วงฤดูหนาว โรงแรมบางเมืองจะไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ และหากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ ทางบริษัทอาจมีการปรับเปลี่ยนโรงแรมหรือย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ) 
  • ค่าอาหารทุกมื้อ ตามที่ระบุในรายการท่องเที่ยว
  • ค่าเข้าชมสถานที่ ตามระบุในรายการ
  • หัวหน้าทัวร์จากประเทศไทย คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองในระหว่างการเดินทาง วงเงิน 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือเอกสารต่างด้าวต่างๆ
  • ค่าภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  • ค่าระวางกระเป๋าน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด (โดยสายการบิน Thai Airways อนุญาตให้โหลดกระเป๋าสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องได้ท่านละ 2 ชิ้น น้ำหนักรวมกันไม่เกิน 30 ก.ก.)
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่าน เนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พัก และเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการท่องเที่ยว ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษของโรงแรม เป็นต้น
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% 
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่าและค่าบริการ ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม (โดยประมาณ 4,000  บาท)
  • ค่าธรรมเนียมทิป คนขับรถ ไกด์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 45 ยูโร ตลอดทริป

ราคา

THB 10,000,000

20 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more