เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG) เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG) เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG) เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG)

เนปาล ดินแดนแห่งขุนเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน โดยสายการบินไทย (TG)

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – กาฐมาณฑุ – ปัคตาปูร์ – นากาก็อต

07.30 น.   คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ Dเช็คอินกรุ๊ปของสายการบิน การบินไทย ( Thai Airway) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทและหัวหน้าทัวร์  ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

10.15 น.   นำท่านเดินทางสู่ เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยสายการบิน การบินไทย เที่ยวบินที่ TG319 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 25 นาที

12.25 น.    เดินทางถึง สนามบินตรีภูวน เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมืองกาฐมัณฑุนั้นเป็นเมืองหลวงและยังเป็นเมืองที่ใหย่ที่สุดของประเทศด้วย เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

นำท่านเดินทางสู่เมือง ปัคตาปูร์ (Bhaktapur) ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมืองนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 โดยพระเจ้าอานนท์ มัลละ ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นราชธานีในหุบเขา เป็นเมืองที่เจริญบนเส้นทางการค้าสู่ทิเบต ชมย่านเดอร์บาสแควร์ หรือย่านพระราชวังบักตาปูร์ อันเป็นที่ตั้งของวัง ชมพระราชวัง 55 พระแกล (หน้าต่าง) , ประตูทองค้า ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงาม  ชมลานสรงน้้า หรือซุนดารี (Sundari) น้าท่านชมวัดเนียตาโปลา (Nyatapola) เป็นศาสนสถานที่สูงที่สุดในเนปาล มีด้วยกัน 5 ชั้น สูง 98 ฟุต สองข้างบันไดทางขึ้นมีรูปปั้นหินขนาดใหญ่  สลักเป็นรูปสัตว์และเทพอารักขา เชื่อกันว่าปั้นแต่ละคู่มีอ้านาจหยุดสิ่ งชั่วร้ายที่เมารุกราน วัดนี้ สร้างขึ้นถวายแด่เทพแห่งเนียตะโปลา ผู้ที่มีพลังสูงสุดหรือสิทธิลักษมี (Siddhi Lakshmi) ซึ่งเป็ นเทวี ลัทธิตันตระ พระเจ้าภูปฏินทรา มัลละ สร้างวัดนี้ในปี ค.ศ. 1702และด้วยความงดงามของเมืองของเมืองนี้ จึงเคยถูกนำมาเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง “LITTLE BUDDHA”

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง นากาก็อต (Narkakot) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จากเมืองกาฏมัณฑุ นากาก็อตนั้นอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,175 เมตร ให้ทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศ ธรรมชาติวิวเทือกเขาหิมาลัยอันสวยงาม นากาก็อตนั้นเป็นชื่อภูเขา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในการชมวิว ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ซึ่งสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยอย่างสวยงาม หากอากาศดียังสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสจากจุดนี้ได้อีกด้วย

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ

พักที่ Choutari Paradise Inn Hotel หรือ เทียบเท่า,เมืองนากาก็อต

วันที่ 2

ยอดเขานากาก็อต – โภครา – น้ำตกเดวิส – ค่ายอพยพชาวทิเบต – ล่องเรือทะเลสาบเฟวา – วัดบาลาฮี

05.30 น.    นำท่านชมแสงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ทางด้านทิศตะวันออกของเทือกเขานากาก๊อต ให้ท่านได้สูดอากาศยามเช้าและเก็บภาพความสวยงามของแนวเทือกเขาหิมาลัยที่โดนแสงอาทิตย์ส่องลงมา ให้ท่านได้อิสระเก็บภาพกันตามอัธยาศัย **จะเห็นเทือกเขาหิมาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ**

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางต่อไปยังเมือง โภครา โดยสายการบินภายในประเทศ

....... น.   ออกเดินทางสู่เมืองโภครา (Pokhara) โดยสายการบิน Yeti Airline เที่ยวบินที่ ....

....... น.   เดินทางถึงเมืองโภครา เมืองนี้ตั้งอยู่ ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 200 กิโลเมตร คืออีกเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศเนปาลเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 รองจากกาฐมาณฑุจากที่นี่ จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของดานุละคีรี (Dhanulagiri) มนะสลู(Manaslu) มัชฉาปุรณะ (Machhapuchher) และยอดเขาอรรณาปุรณะ (Annapurana) ทั้ง 5 ยอดเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขาอรรณาปูรณะ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้้าทะเล 900 เมตร และเป็นจุดชมความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุดเนื่องจากห่างจากบริเวณเทือกเขาแค่ 30 กิโลเมตร เป็นทิวทัศน์ ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตร เมื่อได้สัมผัสยากนักที่จะลืมเลือน และที่นี่ยังเป็นสถานที่ของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินปีนเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

กลางวัน    บริการอาหารกลางวัน

จากนั้นนำท่านชม น้ำตกเดวิส (Devi’s Fall) น้ำตกที่มีความลึกถึง 100 เมตร น้ำตกนี้ตั้งชื่อตามนายเดวิสที่ได้เสียชีวิตที่น้ำตกแห่งนี้พร้อมกับคู่รัก  หลังจากนั้นนำท่านชมค่ายอพยพชาวทิเบต (Tibetan refugee camp) ค่ายนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1960 เป็นสถานที่จัดแสดงความเป็นอยู่ของชาวทิเบตในเนปาล ซึ่งได้อพยพมาทางตอนเหนือของเนปาล ในครั้งที่จีนบุกกรุงลาซา ให้ท่านได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทิเบต และชมวิธีการผลิตพรมขนสัตว์แบบชาวบ้าน และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองต่างๆ

หลังจากนั้นนำท่านชมแม่น้ำเซติ (Seti River) หรือแม่น้ำนม เป็นแม่น้ำสายหนึ่งของแม่น้ำกังฮารา ซึ่งละลายจากหิมะบนยอดเขาอภิและนามปาในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนอินเดีย เนปาล และจีน แม่น้ำนี้มีเอกลักษณ์พิเศษคือมีสีขาวคล้ายน้ำนมไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัยและไหลเข้าไปใต้ดิน แม่น้ำนี้จะไหลผ่านเมืองโภคราซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่มีแม่น้ำไหลผ่านใต้ดินของเมืองโภครา ที่นี่เขาจะทดน้ำขึ้นมาให้ไหลไปตามคลองเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเนปาล ภาพความงามและความใสของทะเลสาบพีวานั้นสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเร เป็นภาพสวยงาม  และตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี  (Barahi Temple) ซึ่งมีสถูปสี ขาวชื่อบาลาฮี ลอยเด่นตัดกับพื้นน้ำ นำท่านสักการะ วัดบาลาฮี วัดที่มีเทพธิดาอจิมา เทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองโภครา ทุกวันเสาร์จะมีการบูชายัญสัตว์แด่เทพธิดา  หลังจากนั้นให้ทุกท่านได้อิสระช็อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ

พักที่ Dandelion Hotel หรือ เทียบเท่า,เมืองโภครา

วันที่ 3

โภครา – ยอดเขาซารางก็อต – กาฐมาณฑุ – ย่านทาเมล - ชมโชว์พื้นเมืองชาวเนปาล

นำท่านเดินทางสู่ยอดเขาซารางก็อต (SARANGKOT) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมวิวที่ ยอดเขาอรรณาปุรณะ แสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ตัดกับยอดเขาอันสวยงาม ชมวิวของเทือกเขาหิมาลัยและแม่น้ำเซติเป็นฉากด้านล่าง โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะอย่างสวยงาม ** ท่านจะเห็นเทือกเขาหิมาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้น**

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม  

**สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นเฮลิค็อปเตอร์เพื่อไปยังยอดเขาอรรณาปุรณะเบสแคมป์  (Annapurana Base Camp หรือ ABC) เพื่อชมความงานและวิวอันสวยงามของยอดเขา โดยที่ท่านไม่ต้องเดินเขาหรือ Trekking เป็นระยะเวลา 10 กว่าวัน ท่านก็สามารถมาถึงยอดเขาแห่งนี้ได้ ใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าขึ้นเฮลิค็อปเตอร์ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคา โดยประมาณอยู่ที่ 450 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น **

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกาฐมาณฑุ หุบเขากาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,336 เมตรเหนือระดับน้้าทะเล หุบเขากาฐมาณฑุนั้นเป็นที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของเนปาลเอาไว้ เนื่องจากหุบเขาแห่งนี้เป็นแหล่งวัฒนธรรมเนวารีโบราณ ชนเผ่าเนวาร์อาศัยอยู่ที่หุบเขาแห่งนี้ได้สร้างอารยธรรมที่ส้าคัญขึ้นบน 3 เมือง ซึ่งได้แก่ กรุงกาฐมาณฑุ ปาทัน และปัคตาปูร์ ความสำเร็จทางด้านศิลปะของชาวเนวาร์ ได้แก่ วัดและปราสาทที่สร้างขึ้นด้วยฝีมืออันประณีต ฝีมือแกะรูปสลักหินและโลหะที่ละเอียดอ่อน และโบสถ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เดินทางโดยรถโค้ช ระยะทางประมาณ 200 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นเส้นทางเลียบไปตามไหล่เขา ระหว่างทางผ่านแม่น้้า ผ่านหมู่บ้าน ท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวเนปาลชนบท ที่ยังคงงดงามในแบบธรรมดั่งเดิม

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน 

บ่าย    หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองกาฐมาณฑุ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่านทาเมล (Thamel) ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ศูนย์กลางของเมืองกาฐมาณฑุ โดยบริเวณย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร โรงแรมที่พัก และร้านขายของมากมาย ย่านนี้จึงเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองนี้ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมาย อาทิเช่น สินค้าจำพวกเครื่องประดับ หัตถกรรม เครื่องนุ่งห่มต่างๆมากมาย

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ... ให้ท่านได้ชมการแสดงพื้นเมืองของชาวเนปาล

พักที่   Manang Hotel หรือ เทียบเท่า,เมืองกาฐมาณฑุ

วันที่ 4

กาฐมาณฑุ – ปาฏัน - จัตุรัสกาฐมาณฑุตูร์บาร์ – วัดกุมารี – กาฐมาณฑป – สถูปโพธินาถ

**สำหรับท่านใดที่สนใจนั่งเครื่องบินเล็กเพื่อชมยอดเขาเอเวอร์เรส (Mt. Everest) ของเทือกเขาหิมาลัย  เพื่อชมความงานและวิวอันสวยงามของยอดเขา โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าขึ้นเครื่องบินเล็กนั้นไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคา โดยประมาณอยู่ที่ 220 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น **

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางไปยังเมืองปาฏัน “Patan” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลลิตาปูร์” เป็นหนึ่งในเมืองหลักของประเทศเนปาล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกาฐมาณฑู เมืองนี้เป็นเมืองแห่งศิลปะงดงามที่สำคัญ1 ใน 4เมือง แห่งหุบเขากาญมาณฑุที่เป็นหุบเขามรดกโลกตั้งแต่ค.ศ. 1979 และเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองแห่งศิลปะและหัตถศิลป์ที่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตและงดงาม เมืองปาฏันนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) โดยเฉพาะชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูป ทองเหลือง วัดฮินดู เมืองปาฏันนี้นับเป็นผลงานสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ชิ้นเอกแบบเนวารี มีถนนโบราณตัดผ่านตลอดทุกทิศ แบ่งออกเป็น 4ส่วน โดยมีจตุรัสปาฏันและพระราชวังปาฏันเป็นศูนย์กลาง

นำท่านชมวัดพระกฤษณะ (Krishna Temple) ที่สร้างด้วยหินแกรนิตทั้งหลัง หลังจากนั้นนำท่านชมวัดทองคำ (Golden Temple) ลักษณะเป็นเจดีย์สูง 3 ชั้น หลังคาวัดทำด้วยแผ่นทองยาวลงมาจรดดิน ประดับตกแต่งด้วยทองเหลืองและทองแดงจนเหลืองอร่ามเรืองรอง เป็นวัดในพุทธศาสนา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป เป็นที่สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคง หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิเช่นสร้อยคอ สินค้าพื้นเมืองจำพวกลูกปัด พระพุทธรูปต่างๆ

นำท่านเดินทางเที่ยวชมเมืองกาฐมาณฑุ นำท่านชมจัตุรัสกาฐมาณฑุ ตูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square) จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูรบาร์ แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ จัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ในปี พ.ศ. 2522

จากนั้นเยี่ยมชมวัดกุมารี หรือกุมารีฆระ (Temple of Kumari) ซึ่งเป็นที่พำนักของเทพธิดากุมารี ตามความเชื่อของชาวเนปาลนั้น กุมารีคือตัวแทนแห่งพระอุ มาเทวี เป็นเทพบริสุทธิ์ที่ถือกำเนิดจากโลกมนุษย์  ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาจากเด็กหญิงอายุ 3-5 ปี จากตระกูลศากยะหรือตระกูลของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ชาวเนปาลนับถือกุมารีดุจเทพเจ้าและมักจะขอพรให้ประสบความสำเร็จ กุมารีมีหน้าที่ทำพิธีบูชาเทพธิดาแห่งเตาไฟ หรือเทพธิดาแห่งการดำรงชีพ ( Living Goddess) และในช่วงเทศกาลอินทรา ยาตรา (Indra Jatra) หรือเทศกาลบูชาพระอินทร์ที่เวียนมาปีละครั้ง กษัตริย์เนปาลจะมาหากุมารีเพื่อรับพรจากเธอ

หลังจากนั้นนำท่านชมกาฐมาณฑป (Kasthamandap) เป็นอาคารไม้เก่าแก่ที่สุด และเป็นกำเนิดของชื่อเมืองกาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับวัดกุมารี สถานที่นี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ลักษมี นาสิงห์ มัลละ (King Laxmi Narsingha Malla) ในตอนต้นศตวรรษที่ 16

กลางวัน    รับประทานอาหารกลางวัน 

บ่าย    จากนั้นนำท่านสักการะ สถูปโพธินาถหรือพุทธนาถ (Boudhanath) หมายถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง สถูปนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์เจดีย์ มีฐานทรงดอกบัวตูม มีเค้าศิลปะค่อนไปในทางทิเบต เห็นได้ชัดจากรูปแบบการก่อสร้างฐานสถูป ที่อิงคติปริศนาธรรมมัณฑลา (Mandala) อันเป็นรูปธรรมนิมิตตามคติพุทธศาสนาแบบทิเบต ในความหมาย เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่างๆ บนเจดีย์มีรูปเพ้นท์ลายดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ อันเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนทำดี องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2502 รอบๆองค์เจดีย์ประดับด้วย “ธงมนตรา” ที่ชาวทิเบตและชาวเนปาลนิยมนำมาแขวนเอาไว้อย่างสง่างามอย่างเป็นเอกลักษณ์  ธงนี้จะจารึกบทสวดมนตร์แล้วนำไปปลุกเสก ก่อนจะนำมาประดับที่องค์พระเจดีย์ หรือประดับตามหลังคาอาคารบ้านเรือน ทางเดิน ช่องเขา ฯลฯ เพื่อให้ลมพัดช่วยสวดมนตร์ แล้วพัดพาเอามนตราไปคุ้มครองผู้ผ่านทาง สถูปแห่งนี้สร้างโดยชาวทิเบตที่อพยพหนีสงครามเข้ามาที่นี่เมื่อปี พ.ศ. 2502 เมื่อครั้งที่จีนเข้ารุกรานทิเบต บริเวณวัดจึงเป็นที่ชุมชนของชาวพุทธจากทิเบต

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ

พักที่ Manang Hotel หรือ เทียบเท่า,เมืองกาฐมาณฑุ

วันที่ 5

สถูปสวยมภูนาถ – กาฐมาณฑุ – กรุงเทพฯ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นําท่านสักการะ สถูปสวยมภูนาถ (Swayambhunath) หรือวัดลิง เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) ที่ยิ่งใหญ่ 9 แห่งหนึ่งของโลก โดยคาดว่ามีอายุถึง 2,000 กว่าปี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะ ในปี พ.ศ.963 จุดเด่นของภายในวัดนี้คือ ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม หรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ของหุบเขากาฐมาณฑุ  จึงทําให้เห็นทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่งดงาม สถูปแห่งนี้ยังเป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล และยังเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับฮินดู โดยองค์กรยูเนสโกได้ทําการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522

10.30 น.    สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ

13.30 น.    นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน การบินไทย ( Thai airway ) เที่ยวบินที่ TG320

18.10 น.    เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ 

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด
  • ค่าโรงแรมที่พักตามรายการที่ระบุ (สองท่านต่อหนึ่งห้อง)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่มตามรายการที่ระบุ
  • ค่ารถรับส่งและระหว่างนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 200,000 บาท ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ** ลูกค้าท่านใดสนใจซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่บริษัทได้ ** - เบี้ยประกันเริ่มต้น 370 บาท [ระยะเวลา 5-7 วัน]- เบี้ยประกันเริ่มต้น 430 บาท [ระยะเวลา 8-10 วัน] ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุมากกว่า 16 หรือน้อยกว่า 75 ปี  [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, รักษาต่อเนื่อง 2 แสน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 3 ล้านบาท]ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุน้อยกว่า 16 หรือมากกว่า 75 ปี [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, รักษาต่อเนื่อง 2 แสน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
  • ภาษีสนามบิน + ภาษีน้ำมัน 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย
  • กระเป๋าเดินทางในกรณีที่น้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด 30 กิโลกรัม/ท่าน ส่วนเกินน้ำหนักตามสายการบินกำหนด
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม, ค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีดฯลฯ
  • ค่าอาหารที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าวีซ่าเข้าประเทศเนปาลท่านละ 900 บาท
  • ค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติหรือคนต่างด้าว
  • ค่าทิปค่าทิปคนขับรถ และไกด์ท้องถิ่น 25 USD /ทริป/ต่อท่าน

ราคา

THB 10,000,000

25 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more