ลาว หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ 4 วัน 3 คืน
Travel Information
Travel Rate
วันที่ 1
กรุงเทพมหานคร– หลวงพระบาง – น้ำตกตาดกวางสี – พระธาตุพูสี - ตลาดไนท์บาร์ซา
08.00 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 8 เคาท์เตอร์ W สายการบินลาว แอร์ไลน์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเตรียมเอกสารการเดินทางและนำโหลดสัมภาระ
10.20 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง ประเทศลาว โดยสายการบิน LAO AIRLINE เที่ยวบินที่ QV634
12.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง ประเทศลาว หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองหลวงพระบาง อดีตราชธานีของอาณาจักรล้านช้าง เดิมชื่อ “ศรีสัตนาคนหุตมะราชธานี” เจริญรุ่งเรืองมากในสมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม โดยรถตู้ปรับอากาศ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง (1)
ออกเดินทางไป น้ำตกตาดกวางซี ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ถึงน้ำตกตาดกวางซี ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตก ที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม แต่ละชั้นเกิดจากการสะสมของหินปูนที่ไหลปะปนมากับน้ำ พร้อมกับชมความร่มรื่นเขียวชอุ่มรอบๆ บริเวณ แล้วเดินทางกลับหลวงพระบาง
นำท่านไปสักการะ พระธาตุพูสี ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 150 เมตร ใจกลางเมืองหลวงพระบาง นักท่องเที่ยว ที่มาเยือนหลวงพระบาง หากไม่ได้ขึ้นไปก็เหมือนมาไม่ถึงหลวงพระบาง สองข้างทางขึ้นพระธาตุร่มรื่นและหอมอบอวลไปด้วยดงดอกจำปาลาวหลากสีสัน (ช่วง กพ.- มีค.) มองจากยอดพูสีคือภาพพานอรามาของราชธานีเก่าแก่ริมแม่น้ำโขง ล้อมรอบด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนสมกับนามว่า บ้านผา เมืองภูอูอารยะธรรมล้านช้าง ชมพระอาทิตย์อัสดง และตัวเมืองหลวงพระบางในมุมสูง ซึ่งเบื้องล่างจะมองเห็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีแม่น้ำโขงเป็นฉากหลัง และอีกด้านหนึ่งจะเห็นน้ำคานที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารพื้นเมือง วุธิวง (2)
จากนั้นให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดไนท์บาร์ซา(Night Market) เป็นถนนคนเดินตอนเย็นตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็จะมีชาวลาวสูง ลาวเทิง ลาวม้ง ชาวบ้านผานม แม้นแต่ชาวหลวงพระบางเองก็จะนำสินค้าพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นผ้าปัก ผ้าทอมือ ผ้านุ่ง ผ้าซิ่น เครื่องเงิน เครื่องไม้ สินค้ามากมายถูกวางอยู่บนถนนและริมทางเดินตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดหัวถนน อิสระตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรม เมืองทอง ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2
ตักบาตรเช้า – ตลาดเช้า – วัดวุชุนราช – พิพิธภัณฑ์หลวงพระบางวัดเชียงทอง – ล่องเรือน้ำโขง – บ้านช่างไห - ถ้ำติ่ง
05.30 น. นำท่านชมบรรยากาศของการ ทำบุญ-ตักบาตรข้าวเหนียว กับชาวหลวงพระบาง ทุกเช้าชาวหลวงพระบาง ทุกบ้านจะพากันออกมานั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อยๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบาง โดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุข และความเลื่อม ใสศรัทธาที่มีต่อพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง (พิเศษชุดตักบาตรเช้าท่านละ 1 ชุด )
จากนั้นชม วัดแสนสุขาราม วัดแสนสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2261 ตามประวัติกล่าวว่าชื่อของวัดมาจากเงินจำนวน 100,000 กีบ ที่มีผู้บริจาคให้เป็นทุนเริ่มสร้างวัดแสนได้รับการบูรณะ 2 ครั้ง โดยช่างสกุลลาว จุดเด่นคือ พระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ องค์เดียวภายในแขวงหลวงพระบาง
06.30 น. นำท่านเดินชม ตลาดเช้าหลวงพระบาง ทุกๆเช้าชาวเมืองหลวงพระบางจึงต้องออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของจากตลาดเพื่อนำกลับไปปรุงเป็นอาหารที่บ้าน โดยเฉพาะที่ตลาดเช้าแห่งนี้ สำหรับสินค้าที่่วางขายอยู่ทั่วไปก็มีตั้งแต่ ผัก ผลไม้ อาหารปรุงสำเร็จ ขนมพื้นบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เนื้อสัตว์ทั่วไป รวมถึงปลาแม่น้ำโขงและสัตว์ป่านานาชนิด ที่คนลาวนิยมนำมาปรุงอาหาร เรียกได้ว่าโดยพื้นเพแล้วตลาดเช้าหลวงพระบางแห่งนี้เป็นตลาดเพื่อคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตลาดที่เปิดมาเพื่อรองรับนักทองเที่ยวโดยเฉพาะ
07.30 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำท่านชม วัดวิชุนราช สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ.2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ มีเจดีย์ปทุมหรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้ค้นพบโบราณวัตถุมีค่ามากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันนำไปเก็บไว้ในหอพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง
นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง อดีตเป็นพระราชวังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาว สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1904(พ.ศ.2447) โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ เมื่อปี ค.ศ.1975 (พ.ศ.2519) มีหอที่ประดิษฐานพระบางพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร สูง 1.14 เมตร หนัก 54 กิโลกรัม กล่าวกันว่า ทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง เดิมเมืองนี้ชื่อเมืองขวา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เชียงดง เชียงทอง ตามลำดับ
จากนั้นชม วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดหลวงคู่เมืองหลวงพระบาง โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้โปรดให้สร้างขึ้น และได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้าชีวิตศรีสว่างวงศ์วัฒนามากเป็นพิเศษ บริเวณที่ตั้งของวัดอยู่ตอนหัวโค้งของแผ่นดินที่แม่น้ำคานมาบรรจบกันกับแม่น้ำโขง เป็นศูนย์ศิลปกรรมล้านช้าง ความงามของวัดอยู่ที่ความสงบ สง่า สะอาด มีการวางผังออกแบบ และบำรุงรักษาอย่างดีเยี่ยม ชมสิมหรือโบสถ์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของศิลปะสกุลช่างล้านช้าง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง (4)
เดินทางสู่ท่าเรือลงเรือ ล่องแม่น้ำโขงสู่ บ้านช่างไห่ และ ถ้ำติ่ง ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำโขง ล่องเรือถึง บ้านช่างไห สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโทและต้มเหล้าโรง และยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวกผ้าทอลวดลายสวยงามมากมายวางจำหน่าย แล้วล่องเรือต่อสู่ ถ้ำติ่งซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขง เดิมเคยมีพระพุทธรูปทอง เงินนาก ปัจจุบันเหลือพระพุทธรูปไม้จำนวนนับพันองค์“ล่องเรือกลับสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง ให้ได้ได้สนุกกับการร้องเพลงคาราโอเกะบนเรือ”
เย็น รับประทานอาหารเย็น พิเศษล่องเรือแม่น้ำโขง พร้อมร้องเพลงคาราโอเกะ (5)
ที่พัก โรงแรม เมืองทอง ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3
หลวงพระบาง – วังเวียง – บลูลากูน
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
08:00 น. จากนั้นอำลาเมืองหลวงพระบางมุ่งหน้าสู่ วังเวียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชม.)
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง (7)
13.00 น. เดินทางสู่ เมืองวังเวียง เมืองแห่ง ขุนเขาและสายน้ำ เคยถูกเลือกเป็นที่ตากอากาศ ของทหารอเมริกัน ในช่วงสงคราว
นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม ทวีสุข ระดับ 3ดาว หรือเทียบเท่า วังเวียงซึ่งได้รับฉายาว่ากุ้ยหลินเมืองลาวเพื่อให้ท่านได้พักผ่อนดื่มด่ำกับบรรยากาศ
นำคณะเดินทางสู่ “ถ้ำปูคำ” หรือชาวต่างชาติรู้จักในนาม BlueLagoon ภายในประดิษฐาน พระนอนสำริดจากประเทศไทยครับ ด้านหน้าทางขึ้น ถ้ำปูคำจะมีสระน้ำมรกตที่ใสสะอาด สีเขียวสวยมากๆ และมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกันครับ ทางขึ้นไปชมถ้ำนั้นจะสูงชันสักเล็กน้อยครับ แต่ก็เล่นเอาหลายๆคนเหงื่อตกอยู่ไม่น้อยถ้ำปู่คำ เป็นถ้ำขนาดใหญ่มากอีกแห่งครับ มีพระพุทธรูปนอน อยู่ด้านใน มีลำแสงส่องเข้ามาด้านในถ้ำ จากปากถ้ำและช่องเขาอีกด้านสวยงามมากๆ ครับ กิจกรรมในถ้ำปูคำที่เป็นไฮไลท์ ต้องเดินลึกลงไปในถ้ำ อาจได้พบเห็น ปูทองคำ ถ้าได้เห็นจะโชคดีมากๆๆๆๆและที่แห่งนี้จะมีกิจกรรมต่างๆให้เล่นกันทั้ง โดดน้ำล่อง สไลน์เดอร์ ล่องห่วงยาง ได้เวลาพอสมควรนำทุกท่านกลับสู่ตัวเมืองวังเวียง
19.00 น. บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
หลังอาหารนำท่านเดินทางท่องราตรีชมบรรยากาศ ของเมืองวังเวียง มีคนขนานนามว่าเมืองปายแห่งที่สองชมร้าน กิน นอน ดื่ม ที่ถูกใจชาวตะวันตกจนได้เวลาพอสมควรนำท่านกลับสู่ที่พัก......ราตรีสวัสดิ์
ที่พัก โรงแรม ทวีสุข ระดับ 3ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 4
วังเวียง – ถ้ำจัง – เขื่อนน้ำงึ้ม – เวียงจันทน์ - สุวรรณภูมิ
เช้า ตื่นแต่เช้าชมบรรยากาศตอนเช้าของเมืองวังเวียง
05.30 น. Balloons Over Vang Vieng กิจกรรมนี้ แม้จะแตกต่างจากกิจกรรมอื่นๆในวังเวียง แต่ความน่าสนใจอยู่ที่การได้ชมทัศนียภาพ ความสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่ล้อมรอบเมืองแห่งนี้เอาไว้ การได้ชมภาพจากมุมสูงด้วยการนั่งบอลลูน เป็นอะไรที่หาชมได้ยากมากท่านใดที่ประสงค์จะขึ้นบอลลูน กรุณาติดต่อกับไกด์ท้องถิ่นค่ะ (กิจกรรมบอลลูนไม่รวมในค่าใช้จ่าย ค่าขึ้นท่านละ 95USD)
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของรีสอร์ทที่พัก (9)
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำจัง คำว่า "จัง" ในที่นี้เขาบอกว่า หมายถึง หนาวเย็นจนตัวสั่นอาการ"จัง" นั้นเอง พอเราได้มายืนหน้าปากทางเข้าถ้ำต้องขอบอกว่าจริงๆ ในถ้ำมีหนาวเย็นมาก เป็นถ้ำที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นแบบที่ไม่เคยเที่ยวถ้ำที่ไหนมาก่อน ยิ่งเราเดินเข้าไปด้านในยิ่งเย็น คำว่าถ้ำจัง มีความหมายอีกอย่างหนึ่งด้วยคือ ในสมัยศตวรรษที่19 ถ้ำนี้ถูกใช้เพื่อเป็นที่หลบซ้อนการปล้นสะดมของชาวจีนฮ่อ คำว่า "จัง" ในที่นี่จึงมีความหมายว่า "อดทน"
จากนั้น เดินทางสู่ เขื่อนน้ำงึม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2515 มีลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่กักเก็บน้ำในลำน้ำงึมเอาไว้ เขื่อนน้ำงึมแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ในปริมาณที่มากพอสำหรับใช้ในนครเวียงจันทน์ และยังมีเหลือพอส่งออกมาขายทางฝั่งไทย การสร้างเขื่อนน้ำงึมต้องเสียพื้นที่ป่าไปประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร ภายในเขื่อนน้ำงึมมีเกาะเล็กเกาะน้อยกระจัดกระจายอยู่หลายร้อยเกาะ เหมือนอ่างเก็บน้ำทั่วๆ ไป เดินทางถึงเขื่อนน้ำงึม ถ่ายรูปบริเวณเขื่อน จากนั้นนำทุกท่านลงเรือล่องอ่างเก็บน้ำของเขื่อน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ บนเรือที่ล่องบนทะเลสาบ ที่มีความงดงามด้วยเกาะแก่งต่างๆ (10)
ได้เวลาสมควรเดินทางสู่นครหลวงเวียงจันทร์ ท่านชม อนุสาวรีย์ประตูชัย สัญลักษณ์อันโดดเด่นของชาวนครเวียงจันทน์
จากนั้น นำคณะสู่ สนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทร์ เพื่อเดินทางกลับ
18.35 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน LAO AIRLINES เที่ยวบินที่ QV445
19.35 น. เดินทางถึงกรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
อัตรานี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง / หลวงพระบาง – เวียงจันทร์ – กรุงเทพ ชั้นประหยัด โดยสายการบินลาวแอร์ไลน์
- ค่าภาษีสนามบินกรุงเทพฯ และที่เมืองหลวงพระบาง ,
- ค่าที่พักโรงแรม รวมทั้งสิ้น 2 คืนพักห้องละ 2-3 ท่าน,
- ค่าอาหารครบทุกมื้อตลอดรายการ ,
- ค่ารถรับ-ส่งสนามบิน และ รายการทัวร์ตลอดรายการ
- อัตราค่าเข้าชมสถานที่ที่ระบุไว้ในรายการ
- ค่าเรือล่องแม่น้ำโขง พร้อมคาราโอเกะ
- ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง 1,000,000 บาท / ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท ตามเงื่อนไขของบริษัทฯประกันภัย
- ชุดตักบาตรเช้าท่านละ 1 ชุด
อัตรานี้ไม่รวม
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %, ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ระบุไว้ในรายการ,ค่าระวางน้ำหนักเกิน 20 กิโลกรัม
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น+คนขับรถ ตลอดทริปท่านละ 800 บาท