East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG) East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG) East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG) East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG) East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG) East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG)

East and West Europe ออสเตรีย ฮังการี สโลวัก เชก เยอรมนี สวิส อิตาลี 10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG)

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ

22.30 น.    คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินไทย ประตู 4 แถว D พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
 

วันที่ 2

วันที่ 2: กรุงเทพฯ – เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – บูดาเปสต์

01.20 น.     ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบินที่ TG 936

***คณะเดินทางตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 01.30 น. และถึงกรุงเวียนนา เวลา 07.00 น.***

07.15 น.    ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และ จะเปลี่ยนเป็น 6 ชั่วโมงในวันที่ 28 ตุลาคม 2561) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง

นำท่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1955, ผ่านพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จากนั้นนำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน

จากนั้นนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ 
(Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส

เที่ยง     รับประทานอาหรรกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest)  เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มี อารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลืองชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด นอกจากนี้ท่านจะได้ชม สะพานเชน สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ โดยนาย WILLIAM TIERNEY CLARK วิศวกรชาวอังกฤษ เหล็กทุกชิ้นที่ใช้ในการสร้างได้ถูกนำมาจากประเทศอังกฤษเช่นกัน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดุหนาว น้ำในแม่น้ำอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 10 ยูโรต่อท่าน)   

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ซุปกุลาซหมู)

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม MERCURE BUDA หรือเทียบเท่า

วันที่ 3

บูดาเปสต์ – Outlet – บราติสลาวา

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น  GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE,  OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย *** เนื่องจาก OUTLET จะปิดทำการในวันอาทิตย์ ถ้าหากคณะใดตรงกับวันอาทิตย์ในวันนั้น ทางบริษัทขอสลับโปรแกรมไปในวันถัดไปแทน***

เที่ยง    อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

บ่าย    จากนั้นนำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของ  สโลวัก ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN หรือเทียบเท่า

วันที่ 4

บราติสลาวา – ปราก – ปราสาทปราก

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

บ่าย    นำเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslids ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 ชมมหาวิหาร เซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปร๊าก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น แล้วชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย

จากนั้นนำท่านเดินผ่านบนสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ แล้วชมสะพานหอคอย, ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่ตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม EXPO PRAGUE หรือเทียบเท่า

วันที่ 5

ปราก – คาร์โลวี วารี – มิวนิค

เช้า    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองคาร์โลวี วารี (Karlovy vary) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นศูนย์กลางบำบัดโรคภัยต่างๆ นำเดินชมเมืองคาร์โลวี วารี ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมของผู้คนทั่วโลกที่จะมาใช้บริการรักษาสุขภาพตามความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชิญทดลองดื่มน้ำแร่ซึ่งต้องดื่มกับแก้วพิเศษโดยเฉพาะ เป็นแก้ว       พอร์ซเลนที่มีปากยื่นออกมาเหมือนกาน้ำ

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (เป็ดอบโบฮีเมีย)

บ่าย    จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งที่สุดของยุโรป นำชมจัตุรัสมาเรียนพลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นขอประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. และเชิญท่านเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก เช่น เครื่องเหล็กตราตุ๊กตาคู่ เป็นต้น

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม MERCURE MUNCHEN SUD MESSE หรือเทียบเท่า

วันที่ 6

มิวนิค – ล่องเรือชมวิวที่ป่าดำ – ลูเซิร์น

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ เมืองริมทะเลสาปที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดำ (Black Forest) นำท่านล่องเรือชมความงามของทัศนียภาพทะเลสาบที่มีฉากหลังเป็นป่าสนอยู่บนภูเขา ที่เรียกว่า แบล็กฟอเรสต์ สถานที่อันเป็นต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู ให้ท่านได้มีโอกาสชิมเค้กแบล็กฟอเรสอันขึ้นชื่อ  ณ เมืองต้นตำรับตามอัธยาศัย และเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

บ่าย    จากนั้นเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิส จากเหตุการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน

ค่ำ     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม IBIS STYLES CITY หรือเทียบเท่า

วันที่ 7

ลูเซิร์น – จุงเฟรา – อินเทอร์ลาเคน

เช้า     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองลาวท์เทอบรุนเนิน (Lauterbrunnen) เมืองตากอากาศที่สวยงามและยังเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟขึ้นสู่ ยอดเขาจุงเฟรา(Jungfrau) เเละเมื่อปี คศ.2001  องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำคณะนั่งรถไฟท่องเที่ยวธรรมชาติ ขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่จนถึง สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร

เที่ยง      รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา อาหารพื้นเมือง

บ่าย    พาท่านชมวิวที่ ลานสฟิงซ์ (Sphinx Terrace) จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป ที่ระดับความสูงถึง 3,571 เมตร สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่ถึงชายแดนสวิส สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม.และหนาถึง 700 เมตร โดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาและที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป

นำคณะเดินทางลงจากยอดเขาโดยไม่ซ้ำเส้นทางเดิม ให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและแตกต่างกันจนถึง สถานีกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เพื่อเดินทางสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เมืองระหว่างทะเลสาบ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็ก ๆ  จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของฝากจากสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex,  Omega, Tag Heuer เป็นต้น

ค่ำ     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ฟองดูร์ชีส)

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม CITY OBERLAND หรือเทียบเท่า

วันที่ 8

อินเทอร์ลาเคน – ลูกาโน่ – Outlet – มิลาน

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศอิตาลี นำท่านเดินทางสู่ Fox Town Outlet อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมตมอัธยาศัย

เที่ยง     อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

บ่าย    นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิ้งมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า

ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

เข้าสู่ที่พัก โรงแรม IH MILANO LORENTEGGIO หรือเทียบเท่า

วันที่ 9

มิลาน – กรุงเทพฯ

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำเดินทางสู่สนามบินเมืองมิลาน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน

14.05 น.    ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG 941

***คณะเดินทางตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 01.05 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 05.55 น.***

วันที่ 10

กรุงเทพฯ

05.55 น.    ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดีภาพ

อัตราค่าบริการนี้รวม 

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
  • ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า  
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่) ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่นไขกรมธรรม์)** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ ** เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน] **ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี ** [รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
  • ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง (ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์) 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม 

  • ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น  ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก.และมากกว่า 1 ชิ้น,  ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
  • ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ผู้ยื่นวีซ่าต้องชำระเงินตรงกับศูนย์ยื่นวีซ่าในวันยื่น เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 3,500 บาท)
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น, พนักงานขับรถ  (18 ยูโร)
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (โดยมาตรฐาน 3 ยูโร ต่อคน ต่อวัน : 10 x 3 = 30 ยูโร )

ราคา

THB 10,000,000

26 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more