EASY MYANMAR อิ่มบุญ (DD) 3 วัน 2 คืน EASY MYANMAR อิ่มบุญ (DD) 3 วัน 2 คืน EASY MYANMAR อิ่มบุญ (DD) 3 วัน 2 คืน EASY MYANMAR อิ่มบุญ (DD) 3 วัน 2 คืน

EASY MYANMAR อิ่มบุญ (DD) 3 วัน 2 คืน

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

กรุงเทพฯ – สนามบินมิงกาลาดง - ย่างกุ้ง - หงสาวดี - วัดไจ้คะวาย - พระธาตุมุเตา - พระราชวังบุเรงนอง – วัดพระไฝเลื่อน - คิ้มปูนแค้มป์ – พระธาตุอินทร์แขวน (รวมรถขึ้นพระธาตุ)

04.30 น.    คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร1 ชั้น3 ประตู6 เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ NOK AIR (DD) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน 

06.45 น.    ออกเดินทางสู่กรุงย่างกุ้งโดยเที่ยวบิน DD4230

07.30 น.    เดินทางถึง สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (เวลาท้องถิ่นที่เมียนมาร์จะช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที)

เช้า     บริการอาการเช้า Box set  (1)

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดีหรือ เมืองพะโค (Bago) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมอญโบราณที่ยิ่งใหญ่ และมีอายุมากกว่า 400 ปี อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม. 
เมื่อเดินทางถึงแล้ว นำท่าน ตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่วัดไจ้คะวาย (Kyaike Kat Wine) สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก ท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอหรืออาหารแห้งไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้ หรือจะบริจาคปัจจัย (ควรเตรียมแลกเงินจ๊าดไว้สำหรับทำบุญ) หรือทำบุญข้าวสารก็ได้เช่นเดียวกัน 

กลางวัน     บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (2) เมนูพิเศษ! กุ้งแม่น้ำเผาท่านละ 1 ตัว

จากนั้นนำท่านเข้าชมเจดีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี เป็นเจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองและเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศเมียนมาร์ พระธาตุมุเตา (Shwe Mawdaw) ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า นำท่านนมัสการยอดเจดีย์หัก ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งเจดีย์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ของไทย เคยมาสักการะ เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะของพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 377 ฟุต สูงกว่าเจดีย์ชเวดากอง 51 ฟุต มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตรที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นด้านล่าง แต่ยอดฉัตรกลับยังคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ ท่านจะได้นมัสการ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป 

จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง (Kanbawzathardi Palace) ซึ่งเพิ่งเริ่มขุดค้นและบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ.2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าบุเรงนอง ท่านที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประทับของ พระพี่นางสุพรรณกัลยา และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึกที่เมืองหงสา แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดารและซากที่ขุดค้นพบ

จากนั้นนำท่านเดินทางไปที่ วัดพระไฝเลื่อน (Kyaike Pawlaw)   มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ซึ่งมีเรื่องราวเล่ามากมายเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ รายการ National Geographic Society ได้เคยมาถ่ายทำสารคดีที่นี่มากกว่า 10 ครั้ง หลังจากนั้นพาท่านเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึง คิ้มปูนแค้มป์ เพื่อทำการเปลี่ยนเป็นรถเป็นรถท้องถิ่น ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนาดหกล้อ (เป็นรถประจำเส้นทางชนิดเดียวที่เราจะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้) ใช้เวลาเดินทางต่อประมาณ 45 นาทีก็จะถึงจุดจอดรถที่ทางขึ้นเขา หลังจากนั้นจะใช้วิธีการเดินเท้าต่อไปเพื่อเข้าโรงแรม(รถทุกคันจะต้องมาจอดที่จุดนี้ และใช้วิธีการเดินเท้าขึ้นไป หากท่านไหนเดินไม่ไหว สามารถจ้างลูกแบกได้ โดยราคาอยู่ที่การต่อรองและระยะทาง)

หลังจากนั้นนำทานสักการะ พระธาตุอินทร์แขวน (Kyaikhtiyo Pagoda) ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ลักษณะเป็นเจดีย์องค์เล็ก ๆสูงเพียง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนหินกลมๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างหมิ่นเหม่ แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตกเพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์ ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไป ตามคติการบูชาพระธาตุประจำ ปีเกิดของชาวล้านนาพระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็น พระธาตุปีเกิดของปีจอ แทนพระเกตุแก้ว จุฬามณีบนสรวงสวรรค์ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวนได้ แต่ต้องเป็นทองคำเปลว 100 % เท่านั้น (เข้าไปปิดทองได้เฉพาะท่านสุภาพบุรุษ ส่วนท่านสุภาพสตรี สามรถอธิฐาน และฝากท่านสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้)

ค่ำ     บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม  (3)

จากนั้นให้ท่านได้พักผ่อนตามอิสระ ท่านสามารถขึ้นไปนมัสการหรือนั่งสมาธิที่พระเจดีย์ได้ตลอดทั้งคืน แต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับท่านสุภาพบุรุษ จะเปิดถึงเวลา 21.00 น.  ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่ม ผ้าพันคอ เบาะรองนั่งขึ้นไปด้วย เนื่องจากบนพระธาตุอินทร์แขวน จะมีอากาศเย็นกว่าด้านล่าง

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม YOE YOE LAY HOTEL

วันที่ 2

พระธาตูอินทร์แขวน - คิ้มปูนแคมป์ – เจดีย์ไจ๊ปุ่น – พระนอนยิ้มหวาน - พระนอนตาหวาน – เจดีย์วิชชยะ - มหาเจดีย์ชเวดากอง

05.30 น.    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ให้ท่านได้อิสระตามอัธยาสัย สำหรับผู้ที่ต้องการใส่บาตรยามเช้าสามารถซื้อได้ โดยบริเวณรอบๆพระธาตุอินทร์แขวนจะมีชาวบ้านมาขายเป็นชุด ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 จ๊าด ดอกไม้ธูป-เทียน ประมาณ 300-500 จ๊าด สามารถซื้อทำบุญได้ตามอัธยาสัย

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (4)

07.00 น.    อำลาที่พัก นำท่านเดินทางกลับ โดยนั่งรถท้องถิ่นเช่นเดิมเพื่อลงจากพระธาตุอินทร์แขวน เมื่อถึงจุดจอดที่คิ้มปูนแค้มป์ เพื่อเปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ พร้อมนำท่านเดินทางกลับหงสาวดี

จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ไจ๊ปุ่น () สร้างขึ้นในปี 1476 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ สูง 30 เมตร ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระพุทธเจ้าในอดีต สามพระองค์คือ พระพุทธเจ้ามหากัสสปะ ตามตำนานเล่ากันว่า ที่แห่งนี้ สร้างขึ้นโดยสตรีสี่พี่น้องที่มีพุทธศรัทธาสูงส่งและต่างให้คำสัตย์สาบานว่าจะไม่แต่งงานจนชั่วชีวิต แต่ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไปแต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์ที่น้องสร้างนั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที 

นำท่านนมัสการ พระนอนยิ้มหวาน (Shwetharlyaung) พระพุทธรูปนอนที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ สร้างในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศและเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า องค์พระยาว 55 เมตร สูง 16 เมตร ถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าพระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจีที่ย่างกุ้ง แต่ก็งดงามกว่า โดยพระบาทจะวางเหลื่อมพระบาท ซึ่งจะเป็นลักษณะที่ไม่เหมือนกับพระนอนของไทย

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5) เมนูพิเศษ! กุ้งแม่น้ำเผา ท่านละ 1 ตัว

นำท่านเดินทางสักการะ พระนอนตาหวาน (Chu That Gyi) นมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต ซึ่งเป็นพระที่มีดวงตาสวยที่สุด มีขนตาที่งดงาม พระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ และพระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย
นำนมัสการ เจดีย์มหาวิชชยะ (Maha Wizaya Pagoda) เป็นเจดีย์ที่อยู่ไม่ไกลจากเจดีย์ชเวดากอง ภายในองค์เจดีย์มีภาพวาดของ 12 ราศรี หรือคล้ายๆกับท้องฟ้าจำลองของบ้านเรา

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมและนมัสการ มหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwe Dagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศเมียนมาร์ อายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองย่างกุ้ง สถานที่แห่งนี้มีลานอธิฐาน เป็นจุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและเป็นสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล องค์เจดีย์ห่อหุ้มด้วยแผ่นทองคำทั้งหมดน้ำหนักยี่สิบสามตัน ภายในประดิษฐานเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวนแปดเส้นและเครื่องอัฐะบริขารของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสามพระองค์ บนยอดประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีต่าง ๆ จำนวนมาก และยังมีเพชรขนาดใหญ่ประดับอยู่บนยอดบริเวณเจดีย์ ท่านสามารถชมความงามของวิหารสี่ทิศ ซึ่งทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาท ซ้อนเป็นชั้น ๆ งานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตำนานและภูมิหลังความเป็นมาทั้งสิ้น พร้อมชมระฆังใบใหญ่ที่อังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้ำย่างกุ้งเสียก่อน อังกฤษกู้เท่าไหร่ก็ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ภายหลังชาวเมียนมาร์ช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมได้ จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคี ชาวเมียนมาร์ถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ให้ตีระฆัง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการ จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น

                          คำไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

วันทามิ อุตตมะ ชมพู วระฐาเน สิงกุตตะเร มะโนลัมเม สัตตัง สะรัตนะ ปฐมัง กกุสันธัง สุวรรณะ ตันตัง ธาตุโย ธัสสะติ ทุติยัง โกนาคะมะนัง ธัมมะ การะนัง ธาตุโย ธัสสะติ ตติยัง กัสสปัง พุทธจีวะรัง ธาตุโย ธัสสะติ จตุกัง โคตะมัง อัตถะเกศา ธาตุโย ธัสสะติ
อหัง วันทามิ ตุระโต อหัง วันทามิ ธาตุโย อหัง วันทามิ สัพพะทา อหัง วันทามิ สิระสา

*** อธิษฐานพร้อมด้วยใบไม้ที่แปลว่าชัยชนะและความสำเร็จ ***

ค่ำ     บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (6)

นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม  PARK ROYAL HOTEL 5 ดาว+++

วันที่ 3

เจดีย์โบตาทาวน์ (เทพทันใจ / เทพกระซิบ) - วัดบารมี – วัดพระหินอ่อน - ปางช้างเผือก - ตลาดโบโจ๊ก อองซาน - สนามบินมิงกาลาดง - กรุงเทพฯ

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (7)

จากนั้นนำท่านชม เจดีย์โบตาทาวน์ (Botataung Pagoda) สร้างขึ้นโดยทหารพันนาย เพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยเจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุ พระบรมธาตุ 2 องค์ พระพุทธรูปทอง เงิน สำริดกว่า700 องค์ จารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ที่เป็นต้นแบบภาษาพม่าภายในเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์ 

จากนั้นนำท่านเข้าสักการะขอพร นัตโบโบยี หรือ พระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่น ๆ มาสักการะ จากนั้นก็ให้เอาเงินบาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนำให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) ไปใส่มือของนัตโบโบยี 2 ใบ  จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้เป็นขวัญถุง อีกหนึ่งใบให้หยอดตู้ทำบุญ เสร็จแล้วนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนนเพื่อสักการะ เทพกระซิบ หรือ อะมาดอว์เมี๊ยะ โดยตามตำนานเล่าว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า จึงรักษาศีล และไม่ทานเนื้อสัตว์ จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว วิธีการสักการะเทพกระซิบ (อะมาดอว์เมี๊ยะ) ให้บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ เมื่อบูชาเสร็จแล้วให้ไปป้องปากกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูท่านถึงเรื่องที่เราจะขอพร โดยห้ามให้คนอื่นได้ยินเรื่องที่เราขอโดยเด็ดขาด

นำท่านเที่ยวชม ตลาดโบโจ๊ก อองซาน (Scott Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวเมียนมาร์ สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่เมียนมาร์ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น  (หากซื้อสิ้นค้าที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วยทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ)

กลางวัน      บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (8) เมนูพิเศษ! สลัดกุ้งมังกร เป็ดปักกิ่ง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี (Barami Pagoda) ให้ท่านได้สักการะพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง เมื่อนำพระเกศาธาตุนี้มาวางบนมือ จะสามารถเคลื่อนไหวได้ อีกทั้ง วัดนี้ยังได้ชื่อว่า เป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุไว้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น พระโมคาลา พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่างๆ
เมื่อเดินทางถึงเมืองย่างกุ้ง

นำท่านเข้าชม วัดพระหินอ่อน (White Marble) เป็นพระที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียว โดยใช้ช่างผีมือที่ดีที่สุดของประเทศพม่า ปัจจุบันชาวเมืองย่างกุ้ง นิยมมากราบขอพรกันมากมาย

หลังจากนั้นนำท่านชม ปางช้างเผือก (Elephant Camp) ซึ่งในประเทศไทยไม่มีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน แต่ที่ประเทศพม่า ป่าเขายังมีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง ทำให้สามารถพบช้างเผือกได้ชมได้เห็นกันอยู่ และช้างเผือกนั้นตรงตาม คชลักษณะ 5 ประการ คือ 1. งาอุ้มบาตร 2. ผิวเปลือกมะนาว 3. หลังโค้งเหมือนคันธนู 4. หางเป็นผู่ 5. เล็บขาว หลังจากนั้นนำท่านช็อปปิ้ง Market Place ห้างดังเปิดใหม่ของย่างกุ้ง ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากไปฝากคนที่ท่านรัก

18.30 น.    สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมิงกาลาดง

21.00 น.    ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร โดยสารการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD4239

22.45 น.    เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ....

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ตามเที่ยวบินที่ระบุในรายการท่องเที่ยว
  • ค่าภาษีสนามบิน ภาษีน้ำมัน
  • ค่าห้องพักโรงแรม (ห้องละ 2 หรือ 3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการท่องเที่ยวหรือระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และค่ายานพาหนะทุกชนิดตามที่ระบุในรายการท่องเที่ยว
  • ค่าใช้จ่ายมัคคุเทศก์ / หัวหน้าทัวร์ ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุประเภท Medical Insurance คุ้มครองในระหว่างการเดินทาง วงเงิน 1,000,000 บาท

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือเอกสารต่างด้าวต่างๆ
  • ค่าระวางกระเป๋าน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการท่องเที่ยว ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษของโรงแรม เป็นต้น
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีหัก ณ ที่จ่ายของแต่ละประเทศ
  • ทิปไกด์และคนขับรถ ท่านละ 500บาท/ท่าน/ทริป (สำหรับหัวหน้าทัวร์แล้วแต่จะพอใจในการบริการ)

ราคา

THB 10,000,000

25 เมษายน 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more