สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย

สัมผัสความสง่างามแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชมยอดเขาจุงเฟรา 8วัน5คืน โดยสายการบิน การบินไทย

Travel Information

Travel Rate

วันที่ 1

สนามบินกรุงเทพ

22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 3 เคาน์เตอร์ C สายการบิน การบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่ 2

สนามบินเมืองซูริค – เมืองชาฟฮาวเซ่น – โบสถ์ซังท์กัลเลิน - เมืองอัพเพนเซล

01.05 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน การบินไทย โดยเที่ยวบินที่ TG 970

07.50 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองซูริค (Zurich) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังจากผ่านขั้นตอนพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

นำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฮาวเซ่น (SCHAFFHAUSEN) ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงาม เต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของ น้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป น้ำสีเขียวมรกตใสไหลอย่างเชี่ยวกราดทำให้เกิดฟองขาวแตกกระเซ็นยามกระทบกับแก่งหิน ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่ว เกิดภาพที่งดงามจับใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองซังท์กาลเลิน (Sankt Gallen) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองและเข้มแข็งทางศาสนามาตั้งแต่สมัยยุคกลาง นำท่านเที่ยวชมเมืองและถ่ายรูปกับ โบสถ์ซังท์กัลเลิน (Convent of St Gall) สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรค และยังเป็นที่ตั้งของหอสมุด STIFTSBIBLIOTHEK ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1983 ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังอันขึ้นชื่อและภาพเขียนเฟรสโก้ ที่ออกแบบและเขียนโดยนักจิตรกรชื่อดังอย่างไมเคิล แองเจโล ได้

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัพเพนเซล(Appenzell) เมืองในนิยายของชาวสวิสฯ ตั้งอยู่ในหุบเขา อีเบนนาลพ์ (Ebenalp) ติดกับประเทศลิคเทนสไตน์เป็นเมืองที่รายล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์กับทุ่งหญ้าที่เขียวขจีผสมกับสีสันของดอกหญ้าหลากสี อาคารบ้านเรือนยังคงอนุรักษ์ไว้ในสไตล์ดั้งเดิมซึ่งมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยจั่วหน้าบ้านลักษณะโค้งมน และหลังคาที่ทำจากกระเบื้องที่มีชื่อเสียงของที่นี่ Kulturzentrum Te Ziegelh ซึ่งตามตำนานที่เล่าขานต่อกันมาว่า ลวดลายที่ถูกระบายบนตัวอาคารด้วยช่างศิลปในสมัยก่อนเช่น ลายดอกไม้ ลายตัวเลขคณิตและลายการ์ตูนกับสีสันสดใสที่บรรเลงลงไปซึ่งบ่งบอกอารมณ์และความรู้สึกของเจ้าของอาคารอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเดินทางสู่ เมืองวาดูซ เมืองหลวงของประเทศลิคเค่นสไตน์ประเทศที่ “เล็กที่สุด” ในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรประหว่างออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ เดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พักที่ Hilton Garden Inn หรือเทียบเท่า

 

วันที่ 3

มหาวิหารแห่งวาดุซ - โบสถ์เซนต์มาร์ติน - ลูเซิร์น - สะพานไม้ชาเพล - สลักหินสิงโตร้องไห้

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านเดินทางสู่ เมืองวาดุซ (Vaduz) เมืองหลวงของประเทศลิกเตนสไตน์ ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) แม่น้ำที่ยาวและสำคัญที่สุดในทวีปยุโรป นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งวาดุซ ( หรือ มหาวิหาร St. Florin อีกหนึ่งคริสตจักรในวาดุซ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1873 ในแบบนีโอโกธิค ศูนย์กลางของคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกในวาดุซ จากนั้นแวะชมภายนอกของ ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) ปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันในย่านใจกลางเมือง ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับการพำนักของเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมดจากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักหินสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 อิสระท่านเลือกช้อปปิ้ง นาฬิกา แบรนด์ดังมากมาย และมีดพับขึ้นชื่อ ตามอัธยาศัย

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พักที่ Ibis Styles Luzern City หรือเทียบเท่า

วันที่ 4

เมืองกรินเดอวาล – ขึ้นรถไฟสายจุงเฟรา – ยอดเขาจุงเฟรา - เมืองอินเตอร์ลาเก้น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พักนำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด

นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนนสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของสวิส ระหว่างทางก่อถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักๆ  ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์ วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (Top of Europe) นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บนยอดเขาจุงเฟรา นำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่ เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเท่นบรุนเน่น โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ด จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี 2440) นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอินเตอร์ลาเก้น (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พักที่ City Oberland Hotel หรือเทียบเท่า

  

วันที่ 5

เวเว่ย์ - รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน - มองเทรอซ์ - ปราสาทชิลยอง - โลซานน์ - เจนีวา - นาฬิกาดอกไม้

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พักจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส (Pearls of the Swiss Riviera)" ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล นำท่านแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบนำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี ปราสาทแห่งนี้จึงเป็นอนุสาวรีย์แห่งความเกลียดชังของชาวสวิส ในปี ค.ศ.1530 เกิดการต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบของราชวงศ์ซาวอย โดยมีคนหนุ่มเลือดร้อนแห่งเจนีวา 3 คน ได้เป็นผู้นำต่อต้าน แต่ท้ายที่สุดคนหนึ่งถูกจับประหารชีวิต คนหนึ่งหนีหายไป ส่วนอีกคนหนึ่ง ถูกจับขังคุกล่ามโซ่ไว้ที่ปราสาทชิลยองนานถึง 4 ปี ก่อนที่ราชวงศ์ซาวอย จะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงจากกองทัพแห่งเบิร์นในปีค.ศ.1536ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) นำท่านชม เมืองโลซานน์ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น  

นำท่านเดินทางสู่ เจนีวา (Geneva) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วกรุงเจนีวายังเป็นสถานที่จัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ ใน ค.ศ. 1919 และกาชาดสากล ใน ค.ศ. 1864

นำท่านชม น้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี ค.ศ.1886 นำท่านแวะถ่ายภาพกับ นาฬิกาดอกไม้สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบ

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พักที่ Ramada Encore Geneva หรือเทียบเท่า

 

 

วันที่ 6

กรุงเบิร์น - บ่อหมีสีน้ำตาล - ย่านเมืองเก่า - เมือง Basel - เมืองซูริค

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านชม มาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไปจากนั้นนำท่านชม เมือง Basel เมืองนี้เป็นอีกเมืองที่รวบรวมงานศิลปะสวย ๆ เอาไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะที่ Fondation Beyeler ที่รวบรวมภาพเขียนของศิลปินชื่อดังตั้งแต่ใอดีตหลายคน ยกตัวอย่างเช่น Bacons, Monets และ Picassos นอกจากนี้ ในเมือง Basel ยังมี Kunstmuseum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ที่รวบรวมงานศิลป์สวย ๆ ทั้งแนวย้อนยุคและแบบร่วมสมัยอีกเอาไว้อีกด้วย เรียกได้ว่า ผู้ที่รักศิลปะนั้นไม่ควร พลาดเด็ดขาดนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านสู่ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้า สัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด  ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Abbey) โบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนถนน บานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็น ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู ถัดจากถนนบานโฮฟซตราสเซอ คือ ถนนออกัสตินเนอร์กาส (Augustinergasse) ถนนเก่าแก่สายเล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากช่างฝีมือในยุคกลาง ไฮไลท์การท่องเที่ยวคือการไปชมความงดงามของเหล่าหน้าต่างไม้แกะสลักตามอาคารต่างๆบนถนนแห่งนี้

รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พักที่ Novotel Zurich Airport Messe หรือเทียบเท่า

วันที่ 7

ซูริค - กรุงเทพ

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พักได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

13.30 น. ออกเดินทางกลับประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TG971

 

วันที่ 8

กรุงเทพ

05.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการไม่รวม

•  ค่าธรรมเนียมในการจัดทำหนังสือเดินทาง
•  ค่าน้ำหนักส่วนเกินของกระเป๋าสัมภาระจากที่สายการบินกำหนด
•  ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ,

    ค่าโทรศัพท์, ซักรีด, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว,

    ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างเดินทาง เป็นต้น
•  ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย 3 ยูโร EUR/ท่าน x 8 วัน = 21 EUR

•  ค่าทิป ไกด์ท้องถิ่น และคนขับรถ 5 ยูโร EUR/ท่าน x 5 วัน = 25 EUR
•  ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีออกใบเสร็จรับเงินในนามบริษัท หรือต้องการใบกำกับภาษี)

•  ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง

อัตราค่าบริการรวม

•  ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไปกลับชั้นประหยัดตามรายการ
•  ค่าภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง 

•  ค่าภาษีสนามบิน

•  ค่าพาหนะนำเที่ยวตามรายการ

•  ค่าหัวหน้าทัวร์ชาวไทย คอยดูแลตลอดการเดินทาง

•  ค่าธรรมเนียทมวีซ่า เชงเก้น

•  ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า

•  ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
•  ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายการ

•  ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,500,000 บาท

 

      ข้อตกลงและเงื่อนไข

  • ชื่อลูกค้าที่ระบุในแบบฟอร์มการจอง จะต้องตรงกับชื่อในหนังสือเดินทาง
  • สำหรับวีซ่าเข้าเมืองและวีซ่าทรานซิท จะต้องใช้หนังสือเดินทางที่มีอายุคงเหลืออย่างน้อย 6 เดือน หลังจากสิ้นสุดการเดินทางแล้ว
  • การยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้าประเทศหรือวีซ่าทรานซิท ถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
  • การตรวจสอบข้อผิดพลาดอย่างถี่ถ้วนเมื่อได้รับรายละเอียดการจอง กำหนดการเที่ยวบิน และเอกสารการเดินทาง (Travel Voucher) ถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า
  • โปรดตรวจสอบสกุลเงินที่ปรากฏในแพ็คเก็จให้ถูกต้อง สกุลเงินที่ปรากฏนั้นจะเป็นจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระ
  • ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยอาจมีค่าธรรมเนียมช่วงฤดูท่องเที่ยวและวันหยุดเพิ่มเข้ามา
  • พนักงานของHippo On Tourมีหน้าที่ให้ข้อมูลเพื่อการเสนอแนะเท่านั้น และจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นอื่น
  • ก่อนการออกเอกสารการเดินทาง ราคาตั๋วและเงื่อนไขอาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
  • ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะได้รับการชำระเงินเต็มจำนวนจากลูกค้า และมีการออกเอกสารการเดินทางแล้วเท่านั้น
  • Hippo On Tour ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการจองในกรณีที่จำเป็น
  • การยกเลิก/การเปลี่ยนแปลงแก้ไขการจองอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม กรุณาอ่านนโยบายเรื่องการยกเลิก/การเปลี่ยนแปลงแก้ไขการจองของ Hippo On Tour เพื่อความเข้าใจของท่าน
  • แพ็คเก็จไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นและไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือบริการใดๆได้
  • การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายละเอียดการจองใดๆ หลังจากที่บริษัทได้ออกเอกสารการเดินทางให้ลูกค้าแล้ว จะถือว่าเป็นการยกเลิกการจองเดิม และจะมีค่าธรรมเนียมในการยกเลิกการจอง กรุณาอ่านนโยบายเรื่องการยกเลิกการจองของHippo On Tourเพื่อความเข้าใจของท่าน
  • ลูกค้าจะต้องให้อีเมลล์ที่ถูกต้อง และยินยอมให้อีเมลล์ดังกล่าวเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารกับHippo On Tour รับเอกสารการเดินทางและอีเมล์ยืนยันการจอง ทั้งนี้ Hippo On Tour จะไม่รับผิดชอบต่อเอกสารการเดินทางหรืออีเมล์ยืนยันการจองที่ท่านไม่ได้รับ
  • www.hippoontour.com อาจขอให้ลูกค้าส่งสำเนาบัตรเครดิต (ทั้งด้านหน้าและหลัง) และส่งแบบฟอร์มมอบอำนาจการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตกลับมา อันเป็นขั้นตอนในการตรวจสอบและปกป้องลูกค้าจากการถูกโจรกรรมบัตรเครดิตไปใช้โดยบุคคลที่ 3 เจ้าหน้าที่สำรองทัวร์อาจขอความร่วมมือข้างต้นจากลูกค้า แม้ว่าลูกค้าอาจชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว ลูกค้ายินยอมส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้แก่ www.hippoontour.com ตามที่เจ้าหน้าที่สำรองทัวร์ได้แจ้งไป
  • กรุณาอย่านำตั๋วไปขายต่อให้แก่บุคคลอื่น
  • ตั๋วนี้เป็นตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศ

 

 

ราคา

THB 10,000,000

28 มีนาคม 2567

วันเดินทางทั้งหมด

People

Adult

(Age 12+)

Child

(Age 6 to 11)

Infant

(Age 3 to 5)

Booking

Share this tour

Hippo’s Blog

View more

Hippo’s Tips & Recommend

View more